ทุเรียนไทย ครองอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคชาวจีน รั้งตำแหน่งผลไม้ยอดนิยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา เผยข้อมูลปี 2564 เกือบ 90% ของยอดส่งออกทั้งหมด ถูกส่งไปตลาดจีน
สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า ทุเรียนนำเข้าจากไทย ได้กลายเป็นหนึ่งในผลไม้ยอดนิยมสำหรับกลุ่มลูกค้าชาวจีนตลอดไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับบรรดาผลไม้นำเข้าทั้งหมด
รายงานของซินหัว ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของชาวจีนอย่าง เจียงหาน วัย 26 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในเทศบาลนครฉงชิ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ บอกเล่าว่า เธอหลงใหลในรสชาติทุเรียนมาตั้งแต่ปี 2562
เจียงหาน ยังเผยด้วยว่า นอกจากเธอแล้ว ธุรกิจจัดเลี้ยงในนครฉงชิ่งเอง ต่างก็มองว่าทุเรียนเป็นตัวเลือกน่าสนใจสำหรับผลิตภัณฑ์ของพวกเขา ดังนั้นจึงมีการแปรรูปผลไม้ชนิดนี้เป็นสินค้าหลากหลาย เช่น เค้ก ไอศกรีม พิซซ่า และอื่นๆ ไม่ใช่มีเพียงแค่ทุเรียนสดเท่านั้น
ด้าน พานอวิ๋น เจ้าของร้านผลไม้ในนครฉงชิ่ง ก็ระบุว่าเขารับรู้ถึงกระแสความนิยมทุเรียนเช่นเดียวกัน โดยเล่าว่าเมื่อก่อนทางร้านขายทุเรียนอบแห้งเป็นหลัก แต่ตอนนี้ได้หันมาเติมสต๊อกจากตลาดค้าส่งด้วย เพราะผู้คนชื่นชอบทุเรียนสดมากขึ้นเรื่อยๆ
พานอวิ๋นเสริมว่า ปกติแล้วฤดูกาลขายทุเรียนครั้งใหญ่นั้นตรงกับเดือนเมษายน-กรกฎาคม แต่ลูกค้าบางส่วนยังคงเสาะหาทุเรียนสดตามท้องตลาดแม้เข้าสู่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนแล้วก็ตาม
ทั้งนี้ การบริโภคทุเรียนเกือบทั้งหมดในจีนจะมาจากการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศไทย ซึ่งจากข้อมูลของทางการ แสดงให้เห็นว่า ในปี 2564 ไทยมีมูลค่าการส่งออกทุเรียนสดสูงถึง 3.49 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.21 แสนล้านบาท) โดยเกือบ 90% ถูกส่งขายไปยังตลาดจีน
โดยในปีดังกล่าว บริษัทฉงชิ่ง หงจิ่ว ฟรุต จำกัด (Chongqing Hongjiu Fruit Co.) ผู้จัดจำหน่ายผลไม้รายใหญ่ของจีน ได้นำเข้าทุเรียนจากไทยไปมากกว่า 90,000 ตัน ครองสัดส่วนราว 10% ของการนำเข้าทุเรียนทั้งหมดในจีน
สำนักข่าวซินหัวระบุว่า ความนิยมทุเรียนไทยในจีน ยังสร้างประโยชน์ให้กับเกษตรกรไทยด้วยเช่นกัน โดยณัฐกฤษฏ์ โอฬารหิรัญรักษ์ เกษตรกรจังหวัดจันทบุรี วัย 52 ปี ระบุว่าก่อนหน้านี้การค้าขายทุเรียนต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวในท้องถิ่นเป็นหลัก และขาดช่องทางการขาย แต่หลังจากร่วมมือกับหงจิ่ว ฟรุตในปี 2564 ตอนนี้เขามีช่องทางการตลาดมั่นคงและได้ราคาดี
“เมื่อก่อนเราดูแลต้นทุเรียน 2,200 ต้น แต่ตอนนี้เพิ่มเป็น 4,000 ต้น และจ้างแรงงาน 14 คน ส่วนในฤดูเก็บทุเรียน บางครั้งเราต้องการคนช่วยถึง 50 คนต่อวัน” ณัฐกฤษฏ์กล่าว
ขณะเดียวกัน หงจิ่วยังได้จำลองรูปแบบความร่วมมือนี้ในสวนผลไม้หลายสิบแห่งทั้งในไทยและเวียดนามด้วย เพื่อช่วยเกษตรกรหลายพันคนมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม
