แม้ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา หลายคนอาจจะได้หยุดและเฉลิมฉลองกัน แต่ที่ยูเครนนั้น ประชาชนอาจไม่ได้ยินเสียงพลุ แต่กลับได้ยินเสียงดังของอาวุธที่ถูกรัสเซียโจมตีอย่างต่อเนื่อง
มีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่สั่นสะเทือนทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายรัสเซีย ที่ถูกโจมตีในสมรภูมิรบทางภาคตะวันออกของยูเครน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตที่รัสเซียระบุว่าสูงถึง 89 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขความสูญเสียรุนแรงที่สุดอีกครั้งหนึ่งในสงครามยูเครน
จอมพล ดาวสุโข บรรณาธิการข่าวต่างประเทศ สำนักข่าว TODAY สรุปสถานการณ์ช่วงข้ามปีที่ผ่านมา ผ่านรายการ WORLD WHY อธิบายสถานการณ์โลก
เหตุโจมตีทันทีเมื่อปีใหม่
เมื่อวันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมาในเวลา 0 นาฬิกา 1 นาที เกิดเหตุโจมตีโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองมาคีฟคา ในภูมิภาคโดเน็กส์ ซึ่งเป็นสมรภูมิทางภาคตะวันออกของยูเครน ต่อมามีการเผยแพร่ภาพที่ระบุว่าเป็นอาคารของโรงเรียน ซึ่งอยู่ในสภาพที่ถูกโจมตีราบเป็นหน้ากลอง ทั้งนี้มีการยืนยันว่าผู้ที่อยู่ในอาคารไม่ใช่นักเรียน แต่เป็นทหารเกณฑ์รัสเซีย โดยล่าสุดรัสเซียยอมรับว่าจำนวนมีผู้เสียชีวิตกว่า 89 ราย
ทั้งสองฝ่ายยอมรับผู้เสียชีวิตมีมากกว่านั้น
ทั้งนี้ทั้งฝ่ายรัสเซียและยูเครนระบุว่าน่าจะมีจำนวนผู้เสียชีวิตจำนวนหลักร้อย โดยทางการยูเครนระบุว่าน่าจะมีทหารกองหนุนรัสเซียเสียชีวิตจากเหตุนี้มากถึง 400 ราย และบาดเจ็บอีก 300 นาย
ถูกโจมตีเพราะมีทหารเล่นโทรศัพท์?
จากการสอบสวนเบื้องต้นของกองทัพรัสเซียระบุว่าการโจมตีเกิดขึ้นได้เพราะบรรดาทหารกองหนุนฝ่าฝืนคำสั่งห้ามใช้โทรศัพท์ และจุดดังกล่าวอยู่ในระยะที่ยุทโธปกรณ์ของยูเครนสามารถจับสัญญาณได้
ตายเยอะเพราะนอนใกล้คลังอาวุธ?
ขณะที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าการเสียชีวิตจำนวนมากนี้ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะถูกแรงระเบิดจากคลังอาวุธที่จุดดังกล่าวซ้ำของรัสเซียซ้ำเติมไปอีกด้วย เรื่องนี้ทำให้คนในรัสเซียออกมาวิจารณ์รัฐบาลรัสเซียอีกครั้ง บางส่วนชี้ว่าเป็นความประมาทเลินเล่อที่สมควรได้รับโทษทางอาญา
ปลดรัฐมนตรีกลาโหม?
การประเมินของหลายฝ่ายมองว่า รัสเซียน่าจะต้องหาตัวผู้รับผิดชอบมาลงโทษแน่ๆ แต่จะถึงขั้นเอาผิด เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย หรือปลดออกจากตำแหน่งนั้น คงไม่ใช่เรื่องที่จะเห็นได้ง่ายๆ เพราะรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียคนนี้มีความใกล้ชิดสนิทสนม และประธานาธิบดีปูตินไว้วางใจมาก










