
กลุ่มเคร่งศาสนาในสหรัฐฯ ร่วมกันคัดค้านซ่องตุ๊กตายางของบริษัท ออราดอลส์ (Aura Dolls) โดยอ้างว่าหุ่นยนต์ตุ๊กตายางเหล่านี้จะสอนให้วัยรุ่นชายเป็นนักข่มขืน
วันที่ 24 ก.ย. 61 สื่อต่างประเทศรายงานว่า บริษัทออราดอลส์ (Aura Dolls) ที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการทางเพศโดยใช้ตุ๊กตายาง ซึ่งบริษัทดังกล่าวเตรียมเปิดแฟรนไชส์ในฮิวสตัน รัฐเท็กซัส เป็นแห่งแรกในสหรัฐฯ โดย ลูกค้าจะสามารถ “เช่า” หุ่นยนต์ในห้องส่วนตัว ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะซื้อตุ๊กตายาง Kinky S หรือไม่เมื่อ ทั้งนี้ทางร้านจะมีตุ๊กตายางให้ลูกค้าเลือก มีราคาตั้งแต่ 2,500 เหรียญ (80,000 บาท) ตุ๊กตายางแต่ละตัวสามารถตอบสนองต่อการสัมผัสและตอบสนองด้วยเสียง ในขณะที่รุ่นที่มีราคาแพงที่สุดคือหุ่นตุ๊กตายาง AI ซึ่งสามารถสนทนากับผู้ใช้ได้ด้วย

ตุ๊กตายาง Kinky S
ก่อนหน้านี้บริษัท Love Dolls เริ่มต้นธุรกิจนี้ขึ้นในกรุงโตรอนโต ประเทศแคนาดา เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ที่นั้นลูกค้าสามารถจ่ายเงิน 17 ปอนด์ (700 บาท) เป็นเวลา 30 นาที หรือ 70 ปอนด์ (3000 บาท) ต่อชั่วโมงหรือ 120 ปอนด์ (5000 บาท) ต่อ 2 ชั่วโมง เพื่อเสพสุขกับตุ๊กตายางไฮเทค ลูกค้าสามารถเลือกไซต์ และภาพของตุ๊กตายาง รวมถึงชื่อคำอธิบาย ได้ตามสเปกที่ตนเองชอบ โดยทางบริษัทมีแผนจะเปิดสาขาในสหรัฐฯให้ได้ถึง 10 แห่งภายในปี 2020 นี้

ด้านกลุ่มต่อต้านการค้าประเวณีในสหรัฐฯ กลัวการเปิดร้านค้าจะส่งผลต่อความพยายามของพวกเขา ซึ่งทางกลุ่มกล่าวว่า “พวกเราเป็นห่วงใยอย่างยิ่งว่า ซ่องตุ๊กตายางหุ่นยนต์เหล่านี้จะทำให้ผู้ชายกลายเป็นนักข่มขืนกระทำชำเรา เราไม่รู้ว่าจะมีหุ่นยนต์เด็กหรือไม่” ล่าสุดมีผู้ร่วมลงชื่อเรียกร้องให้มีการห้ามมิให้มีการเปิดซ่องตุ๊กตายางหุ่นยนต์ในเมืองฮิวสตันแล้วกว่า 5,800 คน
ทางกลุ่มยังกล่าวอีกว่า “ในฐานะองค์กรที่ไม่หวังผลกำไรที่มีภารกิจหลักคือการยุติการค้าประเวณี เราได้เห็นความคืบหน้าในการพยายามใช้ตุ๊กตายางเหล่านี้ ซึ่งเรากังวลว่าในท้ายที่สุดแล้วมันจะทำให้ผู้ชายมีทัศนะคติทางเพศและกระตุ้นความต้องการทางเพศแบบผิดๆ ในเรื่องการค้าประเวณีรวม ไปถึงการแสวงประโยชน์ทางเพศของผู้หญิงและเด็ก”










