คาราวานผู้อพยพยังคงหลั่งไหลเข้าเม็กซิโกต่อเนื่อง โดยไม่สนคำขู่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะสั่งปิดชายแดน
วันนี้ (22 ต.ค. 61) สื่อต่างประเทศรายงานว่า คลื่นผู้อพยพเกือบหมื่นคนจากประเทศในอเมริกากลาง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวฮอนดูรัส ยังคงเดินเท้ามุ่งหน้าสู่สหรัฐอเมริกา แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศชัดว่า ไม่ต้อนรับ

AFP Photo
ขณะนี้กลุ่มผู้อพยพจำนวนมาก กำลังหลั่งไหลเข้ามายังเมืองทาปาชูลา ประเทศเม็กซิโกแล้ว ซึ่งตั้งอยู่ติดชายแดนกัวเตมาลา พร้อมทั้งตั้งค่ายพักแรมชั่วคราวภายในสวนสาธารณะ ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม ผู้อพยพเหล่านี้ไม่สนใจคำขู่ของผู้นำสหรัฐฯ ที่ระบุว่า จะสั่งปิดพรมแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก หากยังดื้อดึงเดินหน้าต่อ รวมถึงคำเตือนจากรัฐบาลเม็กซิโกว่า พวกเขาอาจถูกจับส่งตัวกลับประเทศบ้านเกิด หากเลี่ยงกระบวนการขึ้นทะเบียนขอลี้ภัย
ด้านตำรวจเม็กซิโกได้อำนวยความสะดวก จัดรถบัสมารับไปส่งยังค่ายผู้อพยพ แต่บรรดาผู้อพยพต่างเพิกเฉย แม้จะมีอาการเหนื่อยล้าและอ่อนแรงจากการเดินเท้ายาวนานหลายชั่วโมงก็ตาม เพราะไม่ไว้ใจ ที่อาจเป็นกับดักและโดนส่งตัวกลับแทน
นายอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ประธานาธิบดีเม็กซิโก ออกมาแสดงความเห็นใจต่อคาราวานผู้อพยพ พร้อมระบุว่า กำลังมองหาความช่วยเหลือด้านเงินทุนจากประธานาธิบดีทรัมป์ เพื่อมาช่วยในแผนพัฒนาบรรเทาความยากจนในภูมิภาคอเมริกากลาง

AFP Photo
สำหรับการอพยพครั้งใหญ่ของชาวอเมริกากลาง ที่เริ่มขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดจากปัญหาความรุนแรงและความยากจนภายในประเทศ
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ว่า จะยุติความช่วยเหลือฮอนดูรัสและกัวเตมาลา รวมถึงอาจปิดพรมแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโกด้วยกำลังทหาร หากผู้อพยพยังไม่ยุติเดินทางเข้าสหรัฐฯ
ส่วนผู้อพยพจำนวนมหาศาลคราวนี้ ถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของเม็กซิโก ที่กำลังพยายามขอความช่วยเหลือจากสหประชาชาติ ให้เข้ามาจัดการกับประเด็นดังกล่าว

AFP Photo
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง









