
ประเด็นคือ – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมจะประกาศใช้กฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับใหม่ หลังวุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติเห็นชอบด้วยเสียงส่วนใหญ่ จุดเด่นของร่างกม.เอื้อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ – ผู้ประกอบการข้ามชาติ
หลังจากวุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ของประเทศ ด้วยคะแนน 51 ต่อ 48 เสียง ไปเมื่อวานนี้ (20 ธ.ค. 60) ตรงกับเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ ล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาแถลงที่หน้าทำเนียบขาว โดยระบุว่า ยินดีที่วุฒิสภา ผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ แสดงให้เห็นถึงการเป็นทีมเดียวกันเพื่อจะก้าวไปสู่ชัยชนะ ทรัมป์ยังขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนพร้อมประกาศว่า “พวกเรากำลังทำให้อเมริกายิ่งใหญ่ที่สุดอีกครั้ง” (WE ARE MAKING AMERICA GREAT AGAIN!)
WE ARE MAKING AMERICA GREAT AGAIN! pic.twitter.com/HY353gXV0R
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) 20 ธันวาคม 2560
We are delivering HISTORIC TAX RELIEF for the American people!#TaxCutsandJobsAct pic.twitter.com/lLgATrCh5o
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) 20 ธันวาคม 2560
Together, we are MAKING AMERICA GREAT AGAIN! pic.twitter.com/47k9i4p3J2
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) 20 ธันวาคม 2560
ทั้งนี้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับสำคัญนี้ ด้วยคะแนนเสียง 227 ต่อ 203 ไปเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา จากนั้น ร่างกฎหมายก็เข้าที่ประชุมวุฒิสภาสหรัฐฯ เพื่อให้สมาชิกลงมติทันที และร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี ถือเป็น กฎหมายฉบับแรกที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะประกาศใช้ หลังจากขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มาเป็นเวลา 1 ปี

วุฒิสภา สหรัฐฯ ผ่านร่างกม.ปฏิรูปภาษี
สำหรับ ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นการปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ของสหรัฐในรอบ 30 ปี ที่มีใจความสำคัญ คือ การปรับลดการจัดเก็บภาษีนิติบุคคล และ บุคคลธรรมดา ที่ครอบคลุมรายได้ทุกระดับ โดยจะเริ่มปรับลดภาษีรายได้ลงตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ซึ่งเท่ากับว่า ผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากร่างกฎหมายนี้คือ กลุ่มคนร่ำรวย เนื่องจากเปอร์เซ็นต์ในการจัดเก็บภาษีจะลดลง และ ถือเป็นข่าวดีของผู้ประกอบการข้ามชาติ และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะ

สำนักข่าวต่างประเทศ บางสำนักรายงานว่า ผลจากร่างกฎหมายนี้บังคับใช้ จะทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ จัดเก็บภาษีได้น้อยลง และ อาจเผชิญกับงบประมาณขาดดุลภายในอีก 10 ปีข้างหน้า และ ที่สำคัญ ผู้เสียภาษีส่วนใหญ่ของประเทศ คือ ชนชั้นกลาง จะไม่ได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้มากนัก









