AFP
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวีตหลายข้อความหลังการประชุมจี 7 ที่ประเทศแคนาดา โจมตีนายกรัฐมนตรีแคนาดา ที่ออกมาประกาศจะเก็บภาษีสินค้าสหรัฐฯ ใช้คำแรง “อ่อนน้อมแต่หน้าไหว้หลังหลอก”
ประเด็นต่อเนื่องจากการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก 7 ชาติ คือ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา หรือ จี 7 (G 7) ที่ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้เกิดรอยราวระหว่าง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กับผู้นำหลายชาติ
โดย นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความอย่างต่อเนื่องภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ประกาศถอนตัวจากการลงนามแถลงการณ์ ร่วมจี 7 เนื่องจากไม่พอใจคำแถลงของ นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีของแคนาดา เกี่ยวกับมาตรการทางด้านภาษีสินค้าสหรัฐฯ พร้อมโจมตีว่า นายทรูโด เป็นบุคคลที่มีท่าทีสุภาพอ่อนน้อม แต่กลับไม่ตรงไปตรงมา โดยทรัมป์ ยังขู่จะขึ้นภาษีนำเข้ายานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งจะสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลกับอุตสาหกรรมยานยนต์แคนาดา
ทั้งนี้ นายทรูโด แถลงว่า เขารู้สึกว่าการที่รัฐบาลสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดาเป็นการเหยียดหยามและเขาจะไม่ยอมถูกรังแก โดยแคนาดาจะมีมาตรการเรียกเก็บภาษีเพื่อตอบโต้สหรัฐฯ เริ่มในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ และว่า “ชาวแคนาดานั้นสุภาพ มีเหตุผล แต่เราจะไม่ยอมถูกควบคุม”
นอกจากแคนาดาแล้ว รัฐบาลเยอรมนียังเผยแพร่ภาพที่ นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี ยืนจ้องหน้าประธานาธิบดีทรัมป์ ที่นั่งบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าไม่ยี่หระ ระหว่างการประชุมจี 7 โดยมีผู้นำอีกหลายประเทศ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงยืนล้อมรอบนายทรัมป์ สะท้อนให้เห็นถึงความไม่ลงรอยกัน
ก่อนการประชุมจี 7 ทรัมป์ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก ร้อยละ 25 และอลูมิเนียม ร้อยละ 10 จากชาติสหภาพยุโรป, เม็กซิโก และแคนาดา ทำให้ประเทศเหล่านั้นพากันออกมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ เช่นกัน ทำให้ในการประชุมจี 7 ทรัมป์ถูกโดดเดี่ยว และเดินทางออกจากแคนาดา เมื่อวันเสาร์ที่ 10 มิ.ย. มุ่งหน้าไปประเทศสิงคโปร์ เพื่อพูดคุยกับ ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือในวันอังคารนี้ (12 มิ.ย. 61)
( ทรัมป์ ทวีตอีกหลายข้อความ หลังออกจากประเทศแคนาดา เกี่ยวกับการค้าสหรัฐฯ )
( ทรัมป์ ยืนยันนโยบาย “อเมริกา เฟิร์ส” คือ ผลประโยชน์ของชาวอเมริกันต้องมาก่อน )
ที่มา AFP
