
ประเด็นคือ – “เคมบริดจ์ อนาไลติกา” บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลของอังกฤษ ปฎิเสธข้อกล่าวหาว่านำข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เฟซบุ๊กกว่า 50 ล้านบัญชี ไปใช้เพื่อช่วยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2016
วันที่ 20 มี.ค. 61 สื่อต่างประเทศรายงานว่า บริษัทเคมบริดจ์ อนาไลติกา (Cambridge Analytica) บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลของอังกฤษ ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมูลส่วนตัวจากเฟซบุ๊กกว่า 50 ล้านบัญชี เพื่อจูงใจคนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2016 ทั้งนี้ทางเคมบริดจ์ อนาไลติกา ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
Watch the full documentary: https://t.co/EW3uLuhzON
— Channel 4 News (@Channel4News) March 19, 2018
โดยช่องแชแนล 4 ของอังกฤษ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอแอบถ่ายนายอเล็กซานเดอร์ นิกซ์ ประธานบริหารของเคมบริดจ์ อะนาไลติกา กล่าวว่าบริษัทของเขามีวิธีที่จะลดความน่าเชื่อถือของนักการเมืองผ่านทางออนไลน์ ขณะที่ผู้สื่อข่าวของแชแนล 4 แกล้งทำท่าเป็นลูกค้าผู้ร่ำรวยต้องการจะลงสมัครเลือกตั้งที่ศรีลังกา
อย่างไรก็ตามเคมบริดจ์ อนาไลติก้า ระบุว่าคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นตัวอย่างที่ผิดอย่างมาก ด้านนายนิกซ์ก็กล่าวกับสื่อต่างประเทศว่านี่เป็นความเป็นจริงที่ผิด และเขารู้สึกว่าบริษัทถูกทำให้ติดกับดักโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
We strongly deny the claims recently made by the New York Times, the Guardian and Channel 4 News. Read our latest press release: https://t.co/G8cnv5G8oc
— Cambridge Analytica (@CamAnalytica) March 19, 2018
ทางด้านนางอลิซาเบธ เดนแฮม กรรมาธิการด้านสารสนเทศของสหราชอาณาจักร ได้ทำการสืบสวนเคมบริดจ์ อนาไลติกา เรื่องการใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เฟซบุ๊กกว่า 50 ล้านบัญชี ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายคริสโตเฟอร์ ไวลี่ ผู้เคยทำงานกับเคมบริจ อนาไลติกา เผยว่าบัญชีผู้ใช้หลายล้านถูกรวบรวมจากแบบทดสอบบุคลิกภาพในเฟซบุ๊กซึ่งถูกพัฒนาโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
ล่าสุดด้านเฟซบุ๊กออกแถลงการณ์ว่า ได้ยกเลิกความร่วมมือกับเคมบริดจ์ อนาไลติกาและนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์แล้ว หลังพบว่านำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด แต่ราคาหุ้นของเฟซบุ๊กก็ร่วงลงถึง 6.8 เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่งผลให้บริษัทสูญเสียมูลค่าในตลาดถึง 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในวันเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก BBC









