ประชาชนร่วมไว้อาลัยเหตุกราดยิงในเมืองลาสเวกัส หลังมีผู้เสียชีวิต 59 ราย

ประชาชนร่วมไว้อาลัยเหตุกราดยิงในเมืองลาสเวกัส หลังมีผู้เสียชีวิต 59 ราย

ประเด็นคือ – ประชาชนในเมืองลาสเวกัสจำนวนมาก ร่วมกันไว้อาลัยให้กับเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงที่มีผู้เสียชีวิต 59 ราย ขณะที่มีผู้บาดเจ็บ 527 คน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายกเทศมนตรีเมืองลาสเวกัส พร้อมด้วยประชาชนหลายร้อยคน ร่วมพิธีไว้อาลัย บริเวณด้านนอกศาลาว่าการลาสเวกัส โดยมีการจุดเทียนและร้องเพลง ให้กับผู้เสียชีวิตจำนวน 59 ราย จากเหตุกราดยิงในงานเทศกาลดนตรีกลางแจ้ง “รูท ไนน์ตี้วัน ฮาเวสต์” ที่เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา ซึ่งเป็นเหตุกราดยิงที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ

ความคืบหน้าในการสอบสวน ผู้ว่าการรัฐเนวาดา ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตคาร์ก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่สอบสวน ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจค้นห้องพักชั้น 32 ของโรงแรมมันฑะเลย์ เบย์ รีสอร์ต แอนด์ คาสิโน ที่นาย สตีเฟน แพดด็อก ใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่พบปืนยาว 23 กระบอก ในจำนวนนี้มีไรเฟิลถึง 4 ชนิด ซึ่งปืนบางกระบอกติดอุปกรณ์เสริม เช่นลำกล้องมองไกล นอกจากนี้ยังมีขาตั้งปืนไรเฟิลอัตโนมัติสำหรับยิงออกมาจากหน้าต่างตรงจุดที่มองเห็นงานคอนเสิร์ต ที่นายแพดด็อกกระแทกหน้าต่างห้องพักแตกออก 2 บาน

โดยนายเจฟฟ์ บริจส์ จากรัฐนอร์ทแคโรไลนา ผู้เคยมาพักห้องในห้องเดียวกันนี้เมื่อปีที่แล้ว พบมุมที่มองลงไปด้านล่าง อันเป็นจุดที่นายแพดด็อก ยิงใส่กลุ่มผู้ชมคอนเสริท ซึ่งห้องพักนี้ ตำรวจกล่าวว่า นายแพดด็อกใช้ชื่อของนางมาริลู ดันลีย์ อายุ 62 ปี หญิงคนสนิท ชาวออสเตรเลียเชื้อชาติฟิลิปปินส์ เข้าจองห้องพักในโรงแรมดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. ระหว่างที่ฝ่ายหญิงเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น

นอกจากนี้ ตำรวจได้ค้นบ้านพักในเมืองสไควร์ ทางตอนเหนือของลาสเวกัส ของนายแพดด็อก ยังพบปืนอีก 19 กระบอก กระสุนปืนจำนวนมาก และพบแอมโมเนียมไนเตรทในรถยนต์ของคนร้าย ที่เป็นสารใช้ทำวัตถุระเบิด

ขณะนี้ตำรวจยังไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเหตุที่ชัดเจน และพนักงานสืบสวนยังไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างคนร้ายกับกลุ่มก่อการร้ายสากล โดยพนักงานสืบสวนบางส่วนเชื่อว่าเหตุการณ์นี้มีแรงจูงใจมาจากอาการทางจิต แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานยืนยัน  นอกจากนี้ นายแพดด็อก ยังมีใบอนุญาตครอบครองปืนอย่างถูกต้อง ไม่มีประวัติอาชญากรรม ไม่คลั่งการเมือง มีฐานะร่ำรวยจากการลงทุนอสังหาริมทรัพย์

นายอีริค แพดด็อก น้องชายของผู้ก่อเหตุ ซึ่งอาศัยอยู่ที่รัฐฟลอริดา กล่าวว่า รู้สึกช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าพี่ชายไม่ใช่ผู้ที่คลั่งไคล้อาวุธปืน ไม่เคยการฝึกทางทหารหรือการใช้อาวุธ

วานนี้ ชาวอเมริกันหลายร้อยคนในรัฐเนวาดา ได้ออกมาเข้าแถวยาวเหยียดเพื่อบริจาคเลือด ให้กับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังมีผู้บริจาคตั๋วเครื่องบินและค่าเดินทาง ที่พัก อาหาร และสิ่งของจำเป็นให้กับครอบครัวเหยื่อผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ที่ต้องการเดินทางมายังลาสเวกัสด้วย

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง