AFP Photo
ยูเครนกลายเป็นที่สนใจหลังหลายประเทศรวมทั้งไทยคุมเข้มกฎหมายห้ามอุ้มบุญ
“คุณอายุ 18-35 หรือเปล่า? ลูกคุณแข็งแรงหรือเปล่า? สุขภาพแข็งแรงทั้งร่างกายทั้งจิตใจหรือเปล่า? ไม่มีคดีติดตัวใช่ไหม?” ข้อความลักษณะนี้มีให้เห็นตามป้ายโฆษณาบนรถโดยสารและสถานีรถไฟใต้ดินในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศยูเครน
หญิงคนหนึ่งที่ติดต่อไปที่บริษัทนายหน้าตามประกาศโฆษณาเมื่อปี 2 ปีก่อน เพราะอยากได้เงินมาจ่ายค่าเทอมให้ลูกแล้วก็อยากซ่อมบ้านด้วย
BioTexCom บริษัทนายหน้าที่ได้รับความนิยมที่สุดในยูเครน เสนอค่าตอบแทนให้ผู้หญิงคนนี้ 11,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 340,000 บาท) ต่อการตั้งครรภ์หนึ่งครั้ง ไม่รวมค่าตอบแทนอีกเดือนละ 250 ดอลลาร์ (ประมาณ 8,000 บาท) ซึ่งตัวเลขทั้งหมดนี้สูงกว่ารายได้เฉลี่ยทั้งปีซึ่งอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท โดยทางบริษัทสัญญาว่าจะดูแลเธออย่างดี เธอกับสามีเลยตัดสินใจรับจ้างอุ้มบุญ
ยูเครนกลายเป็นที่หมายที่ได้รับความนิยมมากขึ้นสำหรับสามีภรรยาชาวต่างชาติที่ต้องการจ้างคนช่วยอุ้มบุญเพราะการอุ้มบุญยังเป็นเรื่องถูกกฎหมายสำหรับประเทศนี้ ในขณะที่หลายชาติที่เคยเป็นแหล่งให้บริการด้านนี้ทั้งอินเดีย เนปาล และไทย ออกกฎหมายห้ามการอุ้มบุญเชิงพาณิชย์และมีมาตรการคุมเข้มมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นค่าบริการในยูเครนถือว่ายังถูกมาก อยู่ที่ครั้งละประมาณ 1 ล้านบาท (ในสหรัฐค่าใช้อยู่ที่ประมาณ 3-4 ล้านบาท)
แม้จะไม่มีตัวเลขอย่างเป็นทางการว่ามีเด็กที่เกิดจากการรับจ้างอุ้มบุญในยูเครนปีละกี่คน แต่ Sergii Antonov นักกฎหมายที่เชี่ยวชาญคดีด้านการแพทย์ อ้างว่าตัวเลขน่าจะอยู่ที่ปีละ 2,000-2,500 คน และเกือบครึ่งหนึ่งผ่านบริษัท Bio TexCom
แม้ค่าตอบแทนจะสูงแต่ แต่ผู้หญิงบางคนบอกว่าพวกเธอได้รับการปฏิบัติราวกับสัตว์ ทั้งถูกบังคับให้อยู่รวมกันในห้องแคบ ๆ จนกว่าจะคลอดทั้งถูกหมอพยาบาลถากถางดูแคลน Sam Everingham ผอ. กลุ่มไม่แสวงหาผลกำไร Families through Surrogacy พูดถึงความเสี่ยงของผู้หญิงยูเครนที่รับอุ้มบุญว่า “พวกเธอต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองหากเกิดปัญหาจากการตั้งครรภ์หรือหลังคลอด และที่สำคัญถ้าแท้งก็จะไม่ได้ทั้งค่าจ้างทั้งค่ารักษา”
อย่างไรก็ตามทางการยูเครนทั้งกระทรวงสาธารณสุขทั้งกระทรวงยุติธรรมต่างปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
ที่มา In search of surrogates, foreign couples descend on Ukraine Ukraine’s ‘baby factories’: The human cost of surrogacy
