
ประเด็นคือ – การกำหนดมาตรฐานสำหรับการวินิจฉัยเข้าข่ายเป็นผู้ป่วยความดันโลหิตสูงของสหรัฐอเมริกาใหม่ หวังช่วยให้ผู้มีอาการเข้ารับการรักษาเร็วขึ้น แต่ทำให้คนเกือบครึ่งประเทศเข้าเกณฑ์ป่วย
สมาคมโรคหัวใจอเมริกัน (เอเอชเอ) กำหนดมาตรฐานสำหรับการวินิจฉัย ที่เข้าข่ายเป็นผู้ที่มีความดันโลหิตสูงของสหรัฐอเมริกาใหม่ ลดลงจากที่เคยกำหนดไว้เดิมที่ 140/90 มิลลิเมตรปรอท ให้เหลือเพียง 130/80 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งมาตรฐานใหม่นี้หวังช่วยให้ผู้มีอาการเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที

นพ.พอล เวลตัน ผู้เขียนแนวทางการวินิจฉัยอาการความดันโลหิตสูงใหม่ บอกว่า บุคคลที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการความดันโลหิตสูงตามกำหนดใหม่นี้ ไม่ได้หมายว่าบุคคลผู้เข้าข่ายจำเป็นต้องรับประทานยาหรือรับการรักษาทันที แต่เปรียบเสมือนเป็นสัญญาณเตือนว่า ผู้เข้าข่ายต้องลดระดับความดันเลือด โดยวิธีการที่ไม่ใช่การใช้ยา อาทิการปรับชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การลดน้ำหนัก, ออกกำลังกายให้มากขึ้น, รับประทานให้ถูกสุขลักษณะขึ้น, หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเค็มจัด, การดื่มแอลกอฮอล์, เลิกสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงภาวะเครียด

อย่างไรก็ตาม มาตรฐานที่กำหนดใหม่นี้ จะส่งผลให้เกือบครึ่งหนึ่งของคนอเมริกันทั้งประเทศ คือราว 46 เปอร์เซ็นต์ ตกอยู่ในนิยามของการเป็นผู้มีอาการความดันโลหิตสูง สูงขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ที่อยู่ในระดับราว 1 ใน 3 ของประชากร (ราว 32 เปอร์เซ็นต์) อาการความดันโลหิตสูง นับเป็นอาการขั้นต้นที่สามารถป้องกันได้ ก่อนนำไปสู่การเป็นโรคหัวใจ และภาวะเส้นเลือดในสมองแตกหรือตีบตัน









