
(Photo by AFP)
ยอดผู้เสียชีวิตจากวิกฤตความหนาวเย็นแบบสุดขั้ว ในพื้นที่แถบมิดเวสต์ของสหรัฐฯ เพิ่มเป็น 21 คน ขณะที่มีการพยากรณ์ว่าอุณหภูมิในช่วงสุดสัปดาห์นี้ อาจเปลี่ยนแปลงอบอุ่นขึ้นแบบทันทีทันใด
วันนี้ (2 ก.พ.2562) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พื้นที่แถบมิดเวสต์ของสหรัฐฯ เป็นบริเวณที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากปรากฏการณ์โพลาร์ วอร์เท็กซ์ (Polar Vortex) หรือลมวนขั้วโลก ส่งผลให้อุณหภูมิลดฮวบ
สภาพอากาศหนาวจัดที่สุดในรอบหลายสิบปี ล่าสุดทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 21 คน โดยกลุ่มคนเรร่อนเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สุด
แม้ว่าเมืองต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบ ได้จัดตั้งศูนย์พักพิงเพื่อให้ความอบอุ่นกับคนกลุ่มเร่ร่อน แต่บางคนก็เลือกที่จะเผชิญกับความหนาวเย็น
โรงพยาบาลต่าง ๆ ต้องรักษาผู้ป่วยที่ถูกหิมะกัด โดยโรงพยาบาลในนครชิคาโก ให้การรักษาผู้ที่ถูกหิมะกัดไปแล้ว 50 คน ครึ่งหนึ่งในจำนวนนี้เป็นคนเร่ร่อน บางคนต้องสูญเสียแขนและขา

ล่าสุด มีการพยากรณ์ว่าสภาพอากาศในแถบมิดเวสต์ช่วงสุดสัปดาห์นี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงอบอุ่นขึ้นแบบทันทีทันใด โดยในนครชิคาโก อุณหภูมิอาจสูงขึ้นไปอย่างน้อย 60 องศาเซลเซียส โดยอยู่ที่ 10 องศาเซลเซียส
ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานฉุกเฉินเตือนว่า อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อาจทำให้เกิดน้ำท่วมจากน้ำแข็งละลาย และอาจมีความเสียหายเกิดขึ้นกับระบบสาธารณูปโภค เช่น ท่อประปาแตก ถนนพังเสียหาย

นอกจากเขตมิดเวสต์แล้ว ยังมีอีกหลายพื้นที่ของสหรัฐฯ ที่เผชิญสภาพอากาศเย็นจัด รวมทั้งรัฐไอโอวา ที่มีการเผยแพร่คลิปภาพหญิงสาวคนหนึ่ง เดินออกไปนอกบ้าน แล้วกลับเข้ามาในสภาพที่ผมชี้ตั้งกลายเป็นน้ำแข็ง
https://www.facebook.com/WorkpointNews/videos/350124358922016/
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- สหรัฐฯ หนาวจัด ติดลบ 50 องศา
- แคนาดา หิมะขั้วโลกเหนือละลายจนเห็นพื้นดิน สหรัฐฯต่ำสุดติดลบ -50 องศา ดับแล้ว 12 ราย
- เจ้าหน้าที่จุดไฟเผารางรถไฟในชิคาโก เพื่อละลายน้ำแข็งหลังเผชิญอุณหภูมิ -50 องศา
- สหรัฐฯ อุณหภูมิลดต่ำติดลบ 37 องศาเซลเซียส ดับแล้ว 7 คน หลังเจอวิกฤต ‘โพลาร์ วอร์เท็กซ์’
- ชิคาโกติดลบ 30 องศา หนาวกว่าขั้วโลกใต้









