
สื่อ ตปท. เผยภาพแคนาดา หิมะขั้วโลกเหนือละลายจนเห็นพื้นดิน เทคนิคการวิเคราะห์คาร์บอน จนพบว่าบริเวณพื้นที่ดังกล่าวนั้น ถูกหิมะปกคลุมมาอย่างน้อย 4 หมื่นปี ขณะที่ตอนกลางของสหรัฐฯ มีอุณหภูมิต่ำสุดติดลบ – 50 องศาเซลเซียส ต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 12 คน
เมื่อวันที่ 1 ก.พ.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในสหรัฐอเมริกา ประชาชนกว่า 216 ล้านคน กำลังเผชิญหน้ากับ “กระแสลมวนจากขั้วโลก” หรือ “ปรากฏการณ์ โพลาร์ วอร์เทกซ์ (Polar vortex)” ทำให้ในหลายพื้นที่มีอุณหภูมิติดลบเกือบ – 40 องศาเซลเซียส โดยในบางพื้นที่แถบตะวันตกตอนกลางของสหรัฐฯ มีอุณหภูมิต่ำสุดติดลบ – 50 องศาเซลเซียส ต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 12 คน

แต่ปรากฎว่าในพื้นที่บริเวณขั้วโลกเหนือ ธารน้ำแข็งและหิมะกลับละลาย จนเห็นพื้นผิวของแผ่นดิน
ล่าสุด เว็บไซต์ นิวยอร์ก เดลี่ นิวส์ ของสหรัฐฯ ได้เผยแพร่ภาพดังกล่าวที่เป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน บริเวณเกาะบัฟฟินส์ ไอส์แลนด์ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเอสกิโม อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศแคนาดา

ในภาพเปรียบเทียบ จะเห็นว่าหิมะในพื้นที่ดังกล่าวละลายหายไป จนแผ่นดินโผล่ขึ้นมาให้เห็นเป็นครั้งแรก
จากผลการศึกษาสรุปว่า เป็นผลมาจากอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกที่เพิ่มสูงขึ้น โดยอุณหภูมิเฉลี่ยปัจจุบันนั้น สูงที่สุดในรอบ 120,000 ปีของโลก
และนักวิจัย ได้นำตัวอย่างพืชในดินที่โผล่พ้นหิมะขึ้นมา เอาไปหาอายุด้วยเทคนิคการวิเคราะห์คาร์บอน จนพบว่าบริเวณพื้นที่ดังกล่าวนั้น ถูกหิมะปกคลุมมาอย่างน้อย 4 หมื่นปี

นักวิจัยจากศูนย์วิจัยเขตอาร์กติกและอัลไพน์ ระบุว่า อุณหภูมิเฉลี่ยในเขตอาร์กติกกำลังเพิ่มขึ้น ในอัตราเร็ว สองถึงสามเท่า เมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆของโลก ส่งผลให้ปรากฎการณ์ธารน้ำแข็งและหิมะละลายหายไปอย่างรวดเร็ว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:









