สหรัฐฯ ชี้โควิดสายพันธุ์เดลตา แพร่เชื้อง่ายเหมือนโรคอีสุกอีใส คนติดเชื้อ 1 คน สามารถแพร่ไปยัง 8-9 คน ยืนยันประสิทธิภาพวัคซีนลดความเสี่ยงป่วยรุนแรง แต่ยังมีโอกาสติดเชื้อและแพร่เชื้อให้คนอื่น
วันที่ 30 ก.ค. 2564 เว็บไซต์ CNN รายงานอ้างเอกสารภายในของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐฯ (CDC) ที่ระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ในสหรัฐฯ ตอนนี้ มีอัตราการแพร่เชื้อง่ายเหมือนโรคอีสุกอีใส
ในเวลาต่อมามีการยืนยันโดย ดร.โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐฯ ที่ยืนยันว่า เอกสารดังกล่าวเป็นของจริง พร้อมย้ำว่า การเปรียบเทียบนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อขู่ประชาชน แต่นี่คือเรื่องกังวลจริงๆ นอกจากนี้ระบุด้วยว่า การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตา เป็นหนึ่งในเชื้อโรคที่แพร่เชื้อได้ง่ายที่สุด ในระดับเดียวกับโรคหัดหรืออีสุกอีใส
เอกสารภายในของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐฯ ระบุว่า ไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาสามารถแพร่เชื้อจากผู้ติดเชื้อ 1 คน ไปยังผู้อื่นได้ถึง 8-9 คน ขณะที่สายพันธุ์ดั้งเดิม มีโอกาสแพร่เชื้อโดยเฉลี่ยจาก 1 คน ไปยัง 2 คน ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับไข้หวัดธรรมดา
ก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐฯ ยืนยันถึงการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว แต่ก็พบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพลดความเสี่ยงป่วยหนักได้มากกว่า 90% และยังพบการติดเชื้อน้อยกว่ากลุ่มที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน สอดคล้องกับก่อนหน้านี้ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า โควิด-19 กำลังระบาดหนักในกลุ่มคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วมีโอกาสแพร่เชื้อไปสู่คนที่ยังไม่ได้ฉีดได้ ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องปรับคำแนะนำให้ทุกคนในพื้นที่การระบาดสูงต้องสวมหน้ากาก พร้อมแนะนำให้ประชาชนไปฉีดวัคซีน โดยล่าสุด นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสนอให้แต่ละรัฐมอบเงิน 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 3,000 บาท ให้กับชาวอเมริกันที่เข้ารับวัคซีนเข็มแรก
ปัจจุบันมีชาวอเมริกันทั่วประเทศราว 57.1% ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้ว ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ต้องมีการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชาชนอย่างน้อย 75% ถึงจะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้
