วันที่ 22 ธ.ค.62 สื่อต่างประเทศรายงานว่า จากกรณีที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 ธ.ค.62) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ลงนามในกฎหมายหมายจัดการอำนาจด้านความมั่นคงแห่งชาติ โดยมีสาระสำคัญคือการคว่ำบาตรบริษัทต่างๆ ที่ร่วมลงทุนในโครงการท่อส่งก๊าซ Nord Stream 2 ซมูลค่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ในทะเลบอลติก ที่พร้อมจะเปิดใช้งานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ส่งผลให้บรรดาชาติในสภาพยุโรปนำโดยเยอรมัน รวมถึงรัสเซียแสดงความไม่พอใจอย่างมากต่อการคว่ำบาตรครั้งนี้
โดยผู้เชี่ยวชาญเผยว่า สาเหตุที่สหรัฐฯ มีมาตรการคว่ำบาตรในครั้งนี้มาจาก โครงการท่อส่งก๊าซดังกล่าวเป็นของบริษัทก๊าซพรอม ซึ่งเป็นบริษัทด้านพลังงานของรัฐบาลรัสเซีย ซึ่งทางสหรัฐฯ เกรงว่าโครงการดังกล่าวอาจจะถูกรัสเซียใช้เป็นเครื่องต่อรองทางการเมืองกับประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป ด้านนายไฮโค มาส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีกล่าวว่า “การคว่ำบาตรครั้งนี้ถือเป็นการแทรกแซงการตัดสินใจการดำเนินนโยบายของประเทศในยุโรป” นอกจากนี้ น.ส.มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังได้กล่าวว่า “ถือเป็นอีกครั้งหนึ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯใช้มาตรการฝ่ายเดียวกดดันการค้าโลก แต่รัฐบาลรัสเซียจะยังเดินหน้าโครงการต่อไป”
