สหรัฐฯ ชี้สินค้าจากฮ่องกงต้องระบุต้นทางสินค้าว่า “Made in China”

สหรัฐฯ ชี้สินค้าจากฮ่องกงต้องระบุต้นทางสินค้าว่า “Made in China”

สหรัฐฯ ประกาศสินค้านำเข้าจากฮ่องกงต้องติดป้าย Made in China พร้อมถอดชื่อออกจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ หากบริษัทใดไม่ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว

สำนักข่าวเซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงานว่า นายเอ็ดเวิร์ด เหยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ฮ่องกงกล่าวว่า ทางการสหรัฐฯ ประกาศให้สินค้าฮ่องกงที่ส่งมายังสหรัฐฯ จะต้องระบุต้นทางสินค้าว่า “Made in China” โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 2563 เป็นต้นไป ด้านรัฐมนตรีการคลังสหรัฐฯ สตีเวน มนูชิน กล่าวในวันจันทร์ว่า บริษัทจากจีนและประเทศอื่น ๆ ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านการจัดทำบัญชีของสหรัฐฯ จะถูกถอดชื่อออกจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป

จากมาตรการดังกล่าวทำให้บริษัทในฮ่องกงจะต้องเสียภาษีนำเข้าให้สหรัฐฯ ในอัตราเดียวกับบริษัทจากจีนด้านนายเหยากล่าวว่า ทางการฮ่องกงมีสิทธิ์ตามกฎขององค์การการค้าโลก ที่จะระบุบนสินค้าว่า ผลิตจากฮ่องกง ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์และนักธุรกิจมองว่า มาตรการดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของฮ่องกงมากนัก เพราะสินค้าของฮ่องกงส่วนใหญ่ไม่ได้ส่งไปสหรัฐฯ ยกเว้นสินค้าอัญมณี และอาหารบางรายการเท่านั้น

การเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ ประกาศยกเลิกสถานะพิเศษ ส่งผลให้ฮ่องกงจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษทางเศรษฐกิจแบบพิเศษ และไม่สามารถนำเข้าเทคโนโลยีที่มีความอ่อนไหวจากสหรัฐฯ นอกจากนี้ทางสหรัฐฯ ยัง คว่ำบาตรนางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดของเกาะฮ่องกง พร้อมผู้บริหารระดับสูงอีก 10 คน โดยให้เหตุผลว่า นางแคร์รี หล่ำ และคณะมีส่วนในการลดถอนเสรภาพในการปกครองตนเองของฮ่องกง ตามหลักการ 1 ประเทศ 2 ระบบ

ที่มา

https://www.scmp.com/comment/opinion/article/3097271/us-sanctions-hong-kongs-best-defence-reinvent-itself-chinas-top

https://financialpost.com/pmn/business-pmn/hk-commerce-secy-says-will-discuss-made-in-china-labeling-with-u-s-cnbc

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง