ในเวลาแค่ไม่ถึงสัปดาห์ ไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย ขยายวงจากแค่จุดเล็กๆ ลุกลามเผาผลาญพื้นที่ไปแล้วกว่า 90,000 ไร่ ทำให้อาคารบ้านเรือนนับหมื่นหลังกลายเป็นเถ้าถ่าน
ประชาชนประชาชนเกือบ 180,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านพักอาศัย และอีกอย่างน้อย 200,000 คนได้รับคำเตือนให้เตรียมอพยพในเร็วๆนี้
ล่าสุด มีการยืนยันว่า พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 10 รายแล้ว ขณะที่ความเสียหายทางเศรษฐกิจเบื้องต้นในเวลานี้พุ่งเป็นกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์
แทบจะเรียกได้ว่านี่เป็นมหันตภัยไฟป่าที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์สหรัฐฯที่สำคัญไม่ใช่แค่ยังไร้วี่แววจะคลี่คลายแต่ไฟป่ายังมีโอกาสจะปะทุหรือขยายวงอยู่ตลอดเวลา
สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร ไฟป่าลุกลามไปถึงไหนแล้ว เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้ขนาดไหน และอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ไฟป่าลุกโหมกลายเป็นทะเลเพลิงเผาบ้านเรือนประชาชนอย่างรวดเร็ว เราสรุปทุกอย่างไว้ที่นี่
ไฟโหมลามเผาเผลาญเขตชุมชน
จากจุดเริ่มต้นเมื่อวันอังคาร (7 ม.ค.) ผ่านมาแค่ 4 วันขอบเขตไฟป่าลุกลามเข้าสู่เขตที่อยู่อาศัยของประชาชนอย่างรวดเร็วสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนและอาคารธุรกิจจำนวนมากทำให้บ้านเรือนประชาชนไปจนถึงคฤหาสหรูของบรรดาเศรษฐีคนดังฮอลลีวูดหลายคนกลายเป็นเถ้าถ่านแทบจะในพริบตา
แม้รัฐบาลสหรัฐฯจะพยายามระดมกำลังเข้าไปช่วยดับไฟป่าที่นครลอสแองเจลิสและในอีกหลายๆพื้นที่ของรัฐแคลิฟอร์เนียตอนนี้เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่รถดับเพลิงเฮลิคอปเตอร์ดับเพลิง
แต่ต้องเผชิญอุปสรรคสำคัญ ทั้งสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย อากาศแห้งแล้ง มีลมพัดแรง ซึ่งนอกจากจะยากต่อการดับไฟแล้ว ลูกไฟยังปลิวกระจายไปสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งน้ำสำหรับใช้ในการดับไฟก็เริ่มขาดแคลน
โดยบริเวณสำคัญที่ต้องจับตาในเวลานี้คือ
- ไฟป่าพาลิเซดส์ ซึ่งเป็นบริเวณที่ไฟป่าปะทุขึ้นเป็นจุดแรก ในช่วงสายของวันอังคาร (7 ม.ค.) ในตอนแรก ไฟเริ่มจากจุดเล็กๆ แค่ประมาณ 50 ไร่ แต่ไฟไหม้โหมกระพือ ลุกลามอย่างรวดเร็วเป็นกว่า 500 ไร่ ในเวลาแค่ 20 นาที จากนั้นก็ขยายวงออกไปเรื่อยๆ ล่าสุด ไฟป่าพาลิเซดส์ กินพื้นที่แล้วมากกว่า 50,000 ไร่ โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แค่ 6%
- ไฟป่าอีตัน มีจุดเริ่มต้นที่เนินเขาอัลตาดีนา ในเมืองแพซาดีนา ปะทุขึ้นในช่วงเย็นของวันอังคาร (7 ม.ค.) ขณะนี้ ไฟป่าขยายวงครอบคลุมพื้นที่แล้ว 35,000 ไร่ มีรายงานผู้เสียชีวิตในบริเวณนี้อย่างน้อย 3 ราย และยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้
- ไฟป่าเฮิร์สต์ ปะทุขึ้นทางเหนือของเมืองซาน เฟอร์นันโด ในช่วงดึกวันอังคาร (7 ม.ค.) และเริ่มขยายวงไปเรื่อยๆ จนเจ้าหน้าที่ต้องสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ใกล้เคียง ตอนนี้ ขอบเขตไฟป่าบริเวณนี้ครอบคลุมพื้นอยู่เกือบๆ 2,000 ไร่ ควบคุมเพลิงได้แล้ว 37%
- ไฟป่าลิเดีย ปะทุขึ้นบนเขาแอคตัน ทางเหนือของนครลอสเองเจลิส ช่วงบ่ายวันพุธ (8 ม.ค.) ตอนนี้กินพื้นที่ไปแล้วเกือบๆ 1,000 ไร่ สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว 75%
- ไฟป่าเคนเนธ เป็นจุดล่าสุดที่ปะทุขึ้นมาเมื่อบ่ายวันพฤหัสบดี (9 ม.ค.) ครอบคลุมพื้นที่อยู่ประมาณ 2,400 ไร่ ควบคุมเพลิงได้แล้ว 35%โดยจุดนี้มีการคาดการณ์ว่า อาจเป็นการวางเพลิง เพราะมีประชาชนรวบตัวชายคนหนึ่งไว้ได้หลังเห็นไฟลุกไหม้ขึ้นมาแค่ 30 นาทีขณะนี้ผู้ต้องสงสัยถูกส่งตัวไปให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบสวนแล้ว
ทำไมไฟลุกโหม ขยายวงอย่างรวดเร็ว
สาเหตุที่ไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนียลุกลามอย่างรวดเร็วมีคำอธิบายจากนักวิชาการปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องปัจจัยหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
โดย รอรี แฮดเดน นักวิจัยด้านไฟป่าจากมหาวิทยาลัยเอดินบะระ อธิบายสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟป่าว่า เป็นเพราะก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ต้องเผชิญกับปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งทำให้มีฝนมากกว่าปกติ ส่งผลให้พืชพรรณธรรมชาติในป่า เจริญเติบโต ขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว ซึ่งพืชพรรณเหล่านั้นได้กลายมาเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่สะสมอยู่ในป่าจำนวนมาก
ประกอบกับปีที่แล้วมีภาวะที่เรียกว่าสภาพอากาศแปรปรวนอย่างหนักคือหลังจากที่ฝนตกมากสหรัฐฯยังต้องเผชิญกับสภาพอากาศแห้งแล้งกว่าปกติตามมาสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการเกิดไฟป่า
ซ้ำร้ายกว่านั้นช่วงเวลานี้ยังเป็นช่วงที่ลมซานตาอานาซึ่งเป็นลมพัดแรงที่พัดความแห้งแล้งมาจากกลางทะเลทรายแคลิฟอร์เนียพัดมาพอดีจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ไฟป่าลุกโหมและขยายวงอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม จุดที่น่าสังเกตของเรื่องนี้คือ ไฟป่าครั้งนี้ เกิดขึ้นนอกฤดูที่เกิดไฟป่าตามปกติในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งจะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงราวๆ พ.ค.-ต.ค.
แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าสาเหตุที่แท้จริงของไฟป่าครั้งนี้จะมาจากเงื้อมมือมนุษย์หรือธรรมชาติแต่นี่อาจเป็นการส่งสัญญาณครั้งใหญ่ที่คงทำให้เราต้องกลับมาตั้งคำถามอีกครั้งว่าถึงเวลาแล้วหรือไม่ที่ต้องหันมาตระหนักถึงการดูแลสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น










