PM 2.5 สาเหตุพบมะเร็งปอด ในคนไม่สูบบุหรี่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงและชาวเอเชีย

PM 2.5 สาเหตุพบมะเร็งปอด ในคนไม่สูบบุหรี่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงและชาวเอเชีย

โรคมะเร็งปอดยังคงเป็นหนึ่งสาเหตุหลักของการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งทั่วโลก แค่เฉพาะในประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งปอดเฉลี่ย 40 คนต่อวัน

แต่งานวิจัยล่าสุดพบข้อมูลที่น่าตกใจกว่านั้นคือคนที่ไม่มีประวัติการสูบบุหรี่เป็นโรคมะเร็งปอดมากขึ้นสาเหตุสำคัญมาจากมลพิษทางอากาศที่เราสูดดมกันอยู่ทุกวันนี้

นี่เป็นผลการศึกษาของนักวิจัยจาก The Lancet ร่วมกับ International Agency for Research on Cancer (IARC) และองค์การอนามัยโลก (WHO) ชี้ว่าปัจจุบันพบการป่วยโรคมะเร็งปอดในกลุ่มคนที่ไม่มีประวัติเคยสูบบุหรี่เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับผู้ที่มีประวัติการสูบบุหรี่

ที่สำคัญคือโรคมะเร็งปอดชนิดนี้มักพบในผู้หญิงและประชากรในทวีปเอเชีย

งานวิจัยชิ้นนี้ ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร The Lancet Respiratory Medicine พบว่า ในปี 2565 มีผู้หญิงทั่วโลกถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็งปอด  908,630 คน ในจำนวนนี้มี 541,971 คน (คิดเป็น 59.7%) ที่ป่วยเป็นมะเร็งปอดชนิดอะดีโนคาร์ซิโนมา (adenocarcinoma) ซึ่งเป็นชนิดที่มักพบในกลุ่มคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงที่ได้รับการวิจัยว่าเป็นมะเร็งปอดชนิดอะดีโนคาร์ซิโนมา อย่างน้อย 80,378 คน ยังมีประวัติสืบค้นได้ว่าสาเหตุของการป่วยมีความเกี่ยวข้องกับมลพิษจากฝุ่นละออกขนาดเล็กในอากาศ หรือที่รู้จักกันว่า ‘PM 2.5’

นักวิจัยอธิบายว่า สาเหตุที่สัดส่วนการเกิดโรคมะเร็งปอดในกลุ่มผู้ที่ไม่เคยมีประวัติสูบบุหรี่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เป็นเพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนทุกวันนี้เปลี่ยนไปจากเดิม และปัจจุบันอัตราการสูบบุหรี่ในหลายประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง 

การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสูบบุหรี่และการสัมผัสกับมลพิษทางอากาศเป็นปัจจัยหลัก ที่ทำให้อุบัติการณ์ของมะเร็งเปลี่ยนไปเป็นตามที่เราพบเห็นในปัจจุบันดร. เฟรดดี้ เบรย์ หัวหน้าฝ่ายเฝ้าระวังมะเร็งของ IARC ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมวิจัยชิ้นนี้ ระบุ พร้อมเสริมว่ามะเร็งปอดในกลุ่มผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ คาดว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งอันดับ 5 ของโลก

 

คนไทย 40 คน ตายจากมะเร็งปอดทุกวัน

หากย้อนมาดูสถานการณ์ในประเทศไทย นายแพทย์สกานต์ บุนนาค รองอธิบดีกรมการแพทย์  เปิดเผยในวารสารกรมการแพทย์ เมื่อเดือน พ.. 2567 ว่า มะเร็งปอดเป็นโรคมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ในไทย รองจากมะเร็งตับและท่อน้ำดี

และจากการเปิดเผยของเรืออากาศเอกนายแพทย์สมชายธนะสิทธิชัยผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งปอดคือการสูบหรือรับควันบุหรี่มือสองซึ่งมีทั้งบุหรี่ทั่วไปและบุหรี่ไฟฟ้า

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงด้านพันธุกรรม การสัมผัสสารก่อมะเร็ง ได้แก่ แร่ใยหิน ก๊าซเรดอน (เกิดจากการสลายตัวของธาตุเรเดียมซึ่งนำมาใช้ก่อสร้างอาคารบ้านเรือน) รังสี ควันธูป ฝุ่นไม้ และมลภาวะทางอากาศต่าง ๆ โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 ซึ่งประกอบไปด้วยสารเคมีปนเปื้อนหลายชนิดที่เป็นสารก่อเกิดมะเร็ง

ทั้งนี้มะเร็งปอดถือว่าเป็นมะเร็งที่มีความรุนแรงของโรคค่อนข้างมากส่งผลกระทบต่อชีวิตสูงอีกทั้งการตรวจคัดกรองเพื่อค้นหามะเร็งในระยะแรกค่อนข้างลำบากทำให้ประสิทธิภาพของการรักษามีข้อจำกัด

ทางที่ดีที่สุดคือควรมุ่งเน้นการป้องกันมากกว่าการรักษา เช่น การหยุดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดผู้ที่สูบบุหรี่ อยู่อาศัยในสถานที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายหากต้องปฏิบัติงานในสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และหมั่นตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ

ที่มา

thaihealth

thelancet

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง