เศรษฐกิจดิจิทัลของสิงคโปร์ ใช้ระบบจดจำใบหน้ายืนยันตัวตน ตั้งเป้าใช้แทนบัตรประชาชนอีก 2 ปี

เศรษฐกิจดิจิทัลของสิงคโปร์ ใช้ระบบจดจำใบหน้ายืนยันตัวตน ตั้งเป้าใช้แทนบัตรประชาชนอีก 2 ปี

เปิดแผนเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาลสิงคโปร์ เตรียมใช้ระบบยืนยันตัวตนผ่านใบหน้าในงานราชการและธุรกรรมอิเล้กทรอนิกส์ทุกรูปแบบ แทนที่การใช้บัตรประชาชนภายใน 2 ปี
รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศเตรียมเป็นรัฐบาลแรกในโลกที่นำระบบยืนยันตัวตนผ่านใบหน้า (facial verification) มาใช้เพื่อปูทางให้ประเทศสิงคโปร์เดินหน้าไปสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล (digital economy) อย่างแท้จริง
รัฐบาลสิงคโปร์ตั้งเป้าไว้ว่า การยืนยันตัวตนผ่านใบหน้าจะถูกนำมาใช้ในงานติดต่อราชการอย่างเต็มรูปแบบ โดยหวังจะใช้ระบบดังกล่าวแทนที่การใช้บัตรประชาชนภายในปี 2565 และในปีต่อมาคือ 2566 รัฐบาลสิงคโปร์หวังให้ระบบยืนยันตัวตนผ่านใบหน้าถูกใช้ในการรับจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท

แอนดรูว์ บัด ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของไอพรูฟ (iProov) บริษัทเทคโนโลยีในอังกฤษซึ่งดูแลระบบดังกล่าวให้กับรัฐบาลสิงคโปร์บอกว่า นี่คือครั้งแรกที่ระบบยืนยันตัวตนผ่านใบหน้าจะถูกนำไปใช้ในระบบราชการ
ที่ผ่านมาการยืนยันตัวตนผ่านใบหน้าถูกใช้ในภาคเอกชนอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารที่ใช้ในการยืนยันการทำธุรกรรมกับลูกค้า ซึ่งการตัดสินใจของรัฐบาลสิงคโปร์ที่จะใช้ระบบจดจำใบหน้าสำหรับงานราชการด้วย ทำให้หลายฝ่ายมองว่าเป็นเรื่องดี เพราะเท่ากับว่าในอนาคตภาคเอกชนไม่จำเป็นต้องลงทุนทำระบบขึ้นมาเอง แต่สามารถเชื่อมข้อมูลกับระบบยืนยันใบหน้าของรัฐบาลได้ทันที
TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง