
วันที่ 22 ต.ค. 62 สื่อต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า สหรัฐฯ จะคงกำลังทหารส่วนหนึ่งไว้ในประเทศซีเรีย เพื่อคุ้มครองบ่อน้ำมันในซีเรียที่อยู่ติดกับพรมแดนอิสราเอลและจอร์แดน เพื่อไม่ให้บ่อน้ำมันเหล่านี้ตกไปอยู่ในการครอบครองของกลุ่มไอเอส ดดยวานนี้ (21 ต.ค.62) มีกองกำลังของสหรัฐฯ บางส่วนได้ที่ถอนกำลังมาจากตอนเหนือของซีเรียนั้น ได้เคลื่อนเข้าไปในพรมแดนทางตอนเหนือของอิรัก โดยให้เหตุผลว่าเพื่อช่วยเหลือรัฐบาลอิรักในการปราบปรามกลุ่มไอเอสที่ยังหลงเหลืออยู่

ชาวเคิร์ดเกือบแสนคนต้องอพยพหนีการรุกรานอย่างหนักของกองทัพตุรกี
โดยคำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้มีคำสั่งถอนกำลังทหารสหรัฐฯ กว่า 2 แสนนายที่ประกาศอยู่ในตอนเหนือซีเรียออกจากพื้นที่ จนเกิดเหตุการที่กองทัพตุรกีบุกโจมตีกองกำลังประชาธิปไตยแห่งซีเรีย (SDF) ทางตอนเหนือของประเทศซีเรีย จนทำให้นานาชาติต่อว่าทางสหรัฐฯ ว่าการถอนทหารออกจากพื้นที่ของรัฐบาลวอชิงตันนั้นคือการทอดทิ้งกองกำลังชาวเคิร์ดที่เป็นพันธมิตรสำคัญในการปราบกองกำลังไอเอส ซึ่งเมื่อช่วงกลางเดือนต.ค. ที่ผ่านมา กองกำลังประชาธิปไตยแห่งซีเรีย (SDF) ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันกับรัฐบาลซีเรียในการร่วมมือกันต่อต้านปฏิบัติการทางทหารของกองทัพตุรกีและพันธมิตร เพื่อยับยั้งการรุกรานอย่างต่อเนื่องของตุรกี









