ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘ตลาด NFT’ กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในวงการศิลปะ สื่อ และบันเทิง
แต่ถึงอย่างนั้น รายละเอียดว่าการขายงานศิลปะแบบ NFT นั้นทำงานอย่างไร และใครบ้างที่ประโยชน์ก็ดูยังไม่ชัดเจนนัก
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ทีมนักวิจัยที่ได้เงินทุนจาก Alan Turing Institute ได้เผยแพร่งานวิจัยชิ้นแรกที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ตลาด NFT
โดยงานวิจัยดังกล่าวที่มีชื่อว่า “Mapping the NFT revolution: market trends, trade networks, and visual features,” เผยแพร่บนวารสาร Nature นั้นมีข้อมูลบางอย่างที่สร้างความเซอร์ไพรส์ไม่เบาเลยทีเดียว
ความจริงที่ว่าจากงานวิจัยดังกล่าวก็คือ ยอดขายส่วนใหญ่ในตลาด NFT มาจากผู้ซื้อระดับท็อปๆ และมีศิลปินเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำเงินจาก NFT ได้มากกว่าชิ้นละ 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 500 บาท
ทั้งที่ NFT ได้รับการขนานนามว่าเป็นพลังประชาธิปไตยสำหรับงานศิลปะก็ตาม
Andrea Baronchelli หัวหน้าโครงการวิจัย Token Economy ที่ Alan Turing Institute และมีส่วนเกี่ยวข้องกับงานวิจัยชิ้นนี้ด้วย กล่าวว่า เขาเริ่มมาสนใจตลาด NFT หลังจากผลงาน Everydays: The First 5,000 Days ของ Beeple ถูกขายเป็นครั้งแรกที่ Christie’s
“แต่เดิมเราได้ทำงานวิจัยกี่ยวกับระบบบล็อกเชน คาดการณ์ราคาของคริปโทเคอร์เรนซี ดูเครือข่ายของนักพัฒนา และดูว่าการทำงานร่วมกันของพวกเขาส่งผลต่อตลาดอย่างไร แต่การขายผลงานของ Beeple ปลุกเราให้สนใจตลาด NFT”
ด้วยการทำงานร่วมกันกับหลายที่ ไม่ว่าจะเป็น City University of London, Technical University of Denmark, IBM Research และ IT University of Copenhagen
ทีมนักวิจัยได้วิเคราะห์ทรานแซคชั่นของการซื้อ, ขาย และโอนผลงาน NFT ตั้งแต่ปี 2017 – ปลาย เม.ย. 2021 รวมเป็นจำนวนกว่า 4.1 ล้านชิ้น
ซึ่งแม้สื่อต่างๆ จะรายงานอยู่บ่อยๆ ว่ามีการขาย NFT ในราคาระดับล้านดอลลาร์ และราคาแพงที่ทำลายสถิติ
แต่ทีมวิจัยก็พบว่า ชิ้นงาน NFT ส่วนใหญ่ คือราว 75% มีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 15 ดอลลาร์ โดยมีชิ้นงานเพียง 1% เท่านั้นที่มีราคาสูงกว่า 1,500 ดอลลาร์ หรือราว 50,000 บาท
นอกจากนี้ งานวิจัยยังพบอีกว่า ผู้ซื้อจำนวนเพียง 10% เป็นเจ้าของทรานแซคชั่นหรือธุรกรรม 85% บนตลาด NFT
โดยการวิเคราะห์ครั้งนี้รวม NFT ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น ศิลปะ ของสะสม เกม เมตาเวิร์ส และอื่นๆ
ที่น่าสนใจคือ แม้ว่าผลงานศิลปะในรูปแบบ NFT จะได้รับความสนใจอย่างมาก แต่ก็มีสัดส่วนเพียง 10% ของตลาดงาน โดยมากกว่า 80% ของตลาด NFT เป็นกลุ่มของสะสมและเกม
นักวิจัยยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า งานศิลปะแบบ NFT มีปริมาณเพิ่มขึ้น แต่จำนวนธุรกรรมกลับลดลง ซึ่งหมายความว่าเมื่อราคาของ NFT ในหมวดเพิ่มขึ้น ทำให้จำนวนคนซื้อลดลง
อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่าข้อมูลจำนวนมากในงานวิจัยชิ้นนี้เป็นข้อมูลที่เกิดขึ้นก่อนที่ NFT จะบูมในปี 2021 โดยข้อมูลของปี 2021 มีเพียงในไตรมาสแรกเท่านั้น ซึ่งหากนับจนถึงปัจจุบัน สถานการณ์หลายเปลี่ยนไปพอสมควร
แต่ Baronchelli ไม่คิดเช่นนั้น เขามองว่าตลาดจะยังคงกระจุกตัวอยู่ และโครงสร้างเดิมๆ ที่รู้จักกันในตลาดศิลปะทั่วไป (ที่มีคนกลางอย่าง Gatekeeper ระหว่างศิลปินและผู้ซื้อ) ก็จะกลับมาอีก
[ ครีเอเตอร์ผู้ชาย ขายผลงานได้มากกว่า ]
ไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังมีข้อมูลงานวิจัยในโลก NFT อีกชิ้นที่น่าสนใจ ด้วยข้อมูลที่ระบุว่า ศิลปินผู้ชายขายผลงานได้มากกว่าผู้หญิง
โดยผลสำรวจจาก Art Tactic พบว่า ในช่วง 21 เดือนที่ผ่านมา ผลงาน NFT จากศิลปินหญิง ขายได้เป็นสัดส่วนเพียง 5% บนตลาด NFT เท่านั้น (แม้ว่าธุรกรรมที่เกิดขึ้น 16% จะไม่ทราบเพศก็ตาม)
นอกจากนี้ ผู้หญิงยังทำเงินได้น้อยกกว่าอีกด้วย
โดยในบรรดา 10 อันดับแรกของผู้ที่ทำเงินได้สูงสุด มีเพียงนักดนตรีชื่อ Grimes ซึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ติดอันดับ และ 3 ใน 4 ของรายได้รวมยังมาจากศิลปินชาย
ซึ่งอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าโลก NFT ได้รับการขนานว่าเป็นพลังประชาธิปไตยในวงการศิลปะ เพราะเป็นช่องทางที่ช่วยให้ศิลปินขายผลงานได้โดยไม่ต้องอาศัยคนกลางอย่าง Gatekeeper ซึ่งมักจะเป็นนักสะสมหรือแกลเลอรี่ที่มีอิทธิพลเหนือการซื้อตั๋วเข้าชมผลงาน
โดยผลงานวิจัยชิ้นหนึ่งชี้ว่า 87% ของศิลปินที่ได้แสดงในพิพิธภัณฑ์ใหญ่ๆ เป็นผู้ชาย และ 85% เป็นชาวผิวขาว
จากงานวิจัยชิ้นก่อนหน้าเรื่องราคา และงานวิจัยชิ้นนี้เรื่องเพศ ชี้ให้เห็นชัดเจนว่าตลาด NFT อาจไม่สามารถแก้ปัญหาเดิมในวงการศิลปะได้
ความเหลื่อมล้ำทางเพศยังถูกพูดถึงอย่างเป็นทางการในงาน NFT.NYC เมื่อเดือนก่อน โดย Jodee Rich ผู้ร่วมก่อตั้งการประชุมและซีอีโอแพลตฟอร์ม NFT อย่าง NFT.Kred กล่าวว่า มีผู้พูดราว 18% เท่านั้นที่เป็นผู้หญิง
นอกจากนี้ สปอนเซอร์ของงานยังเป็นผู้หญิงราว 30% ผู้ชาย 70% และผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ชายเช่นกัน
Amy Whitaker ผู้ช่วยศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ซึ่งศึกษาความยั่งยืนทางเศรษฐกิจสำหรับศิลปินกล่าวว่า อาจเห็นความเหลื่อมล้ำทางเพศมากขึ้นในการขายงานศิลปะแบบ NFT
ท้ายที่สุด อาจต้องย้ำอีกครั้งว่างานวิจัยเรื่องราคาขายผลงาน NFT นั้นใช้ข้อมูลก่อนที่ตลาด NFT จะเฟื่องฟู ซึ่งในเวลาเพียง 9 เดือนของปี 2021 ตลาด NFT ก็มีมูลค่าทะลุ 3.5 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 1.04 แสนล้านบาทไปเรียบร้อยแล้ว
ส่วนงานวิจัยเรื่องเพศจะเป็นไปตามคาดการณ์ของนักวิจัยหรือไม่ ก็อาจเป็นเรื่องที่ต้องติดตามเทรนด์กันต่อไปว่าจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร
แต่ที่แน่ๆ ใครสนใจจะเข้าลุยในโลก NFT อย่างไรก็ต้องศึกษาข้อมูลกันให้ดีๆ ก่อนแน่นอน!
อ้างอิง:
https://www.artnews.com/art-news/news/nft-market-research-1234612143/










