เปิดธุรกิจ ‘รัศมีแข’ มองสินค้าเหมือนเป็นลูก ยอดขายช่วงเดือนแรก 7,000 กว่ากระปุก

เปิดธุรกิจ ‘รัศมีแข’ มองสินค้าเหมือนเป็นลูก ยอดขายช่วงเดือนแรก 7,000 กว่ากระปุก

จากรายการแข่งขัน Physical: Asia ที่กำลังฉายบนแพลตฟอร์ม Netflix ตอนนี้ ‘รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น’ สร้างตำนานหลายซีน จนล่าสุดที่เอาชนะตำนานอย่าง แมนนี่ ปาเกียว ได้ในรอบ Death Match ทำให้คำค้นหาบน google Trends ตลอด 7 วันที่ผ่านมา รวมถึงสื่อโซเชียลมีการพูดถึงตัวตนของรัศมีแข และธุรกิจที่ทำอยู่ในปัจจุบัน

ย้อนไป 7 ปีก่อน ‘บ๊วยรัศมีแข’ เกิดขึ้นครั้งแรก เฉพาะช่องทางออนไลน์ เป็นธุรกิจแรกของรัศมีแขที่ทุ่มสุดตัวเพื่อสร้างขึ้นมา

[ ธุรกิจเป็นเหมือนลูก ต้องทำให้ดีที่สุด ]

รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น พิธีกร ดารานักแสดง และอดีตนักกีฬาวอลเลย์บอล ถือว่าเป็นคนแรกๆ ในวงการนักแสดงที่หันมาจับธุรกิจผลไม้อบแห้งแบบจริงจัง เพราะส่วนใหญ่คนในวงการมักจะเริ่มจากธุรกิจอาหาร ธุรกิจแฟชั่น หรือสินค้าบิวตี้

ในปี 2561 รัศมีแขมีโอกาสได้ชิมบ๊วยในโรงงานของเพื่อนคุณแม่ จึงพบว่า บ๊วยที่นี่มีรสชาติดี กลมกล่อม กินเพลินหยุดไม่ได้ เลยปิ๊งไอเดียว่าถ้าต่อยอดธุรกิจบ๊วยจากโรงงานนี้มาเป็นแบรนด์ของตัวเองน่าจะดี

รัศมีแข เคยให้สัมภาษณ์ในช่องทางของ CP ALL เมื่อ 2 ปีก่อนในฐานะผู้ประกอบการรายใหม่ที่นำสินค้าเข้าไปวางขายที่ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น เขาบอกว่า บ๊วยที่นำมาแปรรูปก็มาจากเกษตรคนไทยทั้งหมด นอกจากกำไรขายสินค้า ก็ค่อนข้างแฮปปี้กับเรื่องนี้เพราะเหมือนได้ช่วยชุมชนไปด้วย

เมื่อถามถึงความยากในการทำธุรกิจของคนมีชื่อเสียง เขากลับบอกว่า “เรื่องความง่ายก่อนก็แน่นอนว่าเราสามารถโปรโมทสินค้าได้ เพราะมีแฟนคลับ มีคนติดตามเราเยอะ แต่มันก็ต้องแลกมากับเรื่องคุณภาพด้วย เราคงไม่เอาชื่อเสียงของเรามาแลกกับสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ”

“มันแทบจะต้องไม่มีการเรียกร้องอะไรที่ไม่ดี ดังนั้น การที่เราจะเลือกขายอะไรสักอย่าง มันต้องดีกับคนซื้อแน่นอน”

สำหรับรัศมีแข การทำธุรกิจเป็นเหมือนการดูแลลูก ทุกอย่างต้องดีที่สุด ต้องคุณภาพที่สุด เพราะชื่อเสียงที่ปลุกปั้นขึ้นมาต้องไม่ทะลายลงเพราะทำสินค้าคุณภาพแย่

“แขมองว่า บ๊วยเหมือนเป็นลูกของแข คนเห็นบ๊วยปุ๊ปนึกถึงแข ถ้าคนเห็นแขก็เหมือนเห็นบ๊วย เพราะว่าคนซื้อนอกจากจะเชื่อมั่นว่าบ๊วยอร่อย มันหมายถึงว่า เขาเชื่อมั่นในตัวแขด้วย” 

ปัจจุบันยังไม่มีตัวเลขรายได้ที่ชัดเจนจากบ๊วยรัศมีแข แต่ยอดขายในช่วงเดือนแรกๆ ที่เปิดตัวในปี 2561 แค่เฉพาะช่องทางออนไลน์ (แบบกระปุก) ยอดขายมากถึง 300 ลัง หรือราวๆ 7,200 กระปุกนั่นเอง

[ ธุรกิจไม่มีเป้าหมาย เน้นมั่นคง โตได้เรื่อยๆ ]

เขาเคยพูดว่า ธุรกิจบ๊วยเป็นสินค้าที่กำไรไม่เยอะอยู่แล้ว เพราะขายราคาไม่สูง และส่วนตัวของรัศมีแข ก็ไม่เคยวางเป้าหมายว่าธุรกิจเปิดตัวครั้งแรกจะต้องมีกำไรร้อยล้าน

จริงๆ ธุรกิจของเขา ‘ไม่มีเป้าหมาย’ เน้นความมั่นคง เน้นการสร้างแบรนด์ให้คนจดจำว่าบ๊วยรัศมีแขอร่อย เขาให้ควมสำคัญกับเรื่องการเติบโตแบบระยะยาวมากกว่า

สำหรับรัศมีแขความมั่นใจเป็นเรื่องสำคัญสุด ทำธุรกิจก็อยากให้มั่นคง ยืนระยะไปยาวๆ เขาพยายามต่อยอดจากที่ขายเป็นแบบกระปุก เฉพาะในออนไลน์ ก็พัฒนาเป็นแบบซอง แล้วเพิ่มช่องทางการขายตามร้านสะดวกซื้อ เช่น เซเว่น-อีเลฟเว่น และร้าน MOSHI MOSHI

“การที่เราขยายช่องทางขายที่หลากหลายขึ้น ในร้านออฟไลน์ที่มีสาขาเยอะ ส่วนหนึ่งคือ ทำให้เราเห็นข้อผิดพลาดของสินค้า ทำให้เราอยากพัฒนาให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ”

ในอนาคตสำหรับบ๊วยรัศมีแข เขาวางไว้ว่า หากภาพจำในตลาดไทยแข็งแรงแล้ว รวมถึงยอดขายอยู่ในเกณฑ์รับได้ ก็อาจจะต่อยอดตลาดต่างประเทศต่อไป โดยมองตลาดจีน และตลาดยุโรปว่าเป็นกลุ่มลูกค้าที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนอกจากสินค้าที่เป็น ‘บ๊วย’ ได้เพิ่มไลน์สินค้าใหม่มีทั้ง รัศมีแข อัลมอนด์อบ, รัศมีแข มะขาม, รัศมีแข มะม่วงอบ และรัศมีแข ลูกเกด

เห็นได้ชัดว่า ธุรกิจของรัศมีแขจะเน้นไปที่สินค้าแปรรูป ทั้งผลไม้และถั่ว ซึ่งหากวันที่พร้อมบุกตลาดต่างประเทศ คิดว่าคงไม่ยากเกินไปที่จะแข่งขัน โดยข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ผลไม้ไทยมีชื่อเสียงในต่างประเทศมานาน ทั้งแบบสด แช่แข็ง และอบแห้ง

ส่วนมูลค่าตลาดส่งออกในปี 2567 รวมมูลค่าถึง 6,510.6 ล้าดอลลาร์สหรัฐ (หรือ 231,401 ล้านบาท) คิดเป็นสัดส่วน 22.6% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมดของไทย

แม้ตอนนี้ยังมีแค่ธุรกิจเดียวที่รัศมีแขทำ แต่ผลตอบรับสินค้าดีแทบทุกตัว โดยเฉพาะกลุ่มชาวออฟฟิศที่เป็นลูกค้าหลัก จากเดือนแรกๆ ที่ขายได้ 300 ลัง ตอนนี้ก็คงเพิ่มขึ้นอีกเยอะ เพราะแค่ขายในเซเว่น-อีเลฟเว่น 15,764 สาขา (ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ของปี 2568) ก็เติมสต็อกไม่หวาดไม่ไหวแล้ว

Prakaiporn WriterPrakaiporn

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง