เครื่องบินรบสหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธ สอยวัตถุปริศนาอีกชิ้น โผล่เหนือดินแดนยูคอนของแคนาดา ติดชายแดนรัฐอะแลสกา เตรียมตั้งทีมสอบหาที่มาและวัตถุประสงค์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา เปิดเผยว่า พบวัตถุบินปริศนาลอยอยู่บนท้องฟ้าเหนือดินแดนยูคอน ทางตะวันตกสุดของประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ติดพรมแดนรัฐอะแลสกาของสหรัฐฯ ก่อนที่สหรัฐฯ และแคนาดาจะส่งเครื่องบินขับไล่บินขึ้นสังเกตการณ์ และได้ตัดสินใจใช้เครื่องบิน F-22 ของสหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ใส่เพื่อทำลายวัตถุดังกล่าว
นายทรูโดระบุว่า ทางการแคนาดาได้หารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการล่วงล้ำรอบล่าสุดนี้ ก่อนที่จะมีการตัดสินใจ สั่งการให้ยิงทำลายวัตถุปริศนาดังกล่าว และกองทัพแคนาดาจะเข้าไปเก็บกู้ซากวัตถุชิ้นนี้ เพื่อนำมาวิเคราะห์หาวัตถุประสงค์และแหล่งที่มาต่อไป
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีแคนาดา ยังกล่าวขอบคุณไปยังศูนย์บัญชาการป้องกันอวกาศแห่งทวีปอเมริกาเหนือ (North American Aerospace Defense Command – NORAD) ที่ช่วยปกป้องน่านฟ้าของสหรัฐฯ และแคนาดา และเป็นผู้นำที่ทำให้ภารกิจนี้ประสบความสำเร็จ
ขณะที่ นางอนิตา อานานด์ รัฐมนตรีกลาโหมแคนาดา ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วัตถุปริศนาชิ้นนี้มีลักษณะเล็กและเป็นรูปทรงกระบอก ถูกพบว่าลอยอยู่เหนือดินแดนยูคอน ที่ความสูงราว 12,000 เมตร และถูกยิงสกัดลงมาเมื่อเวลา 15.41 น. ของวันเสาร์ (11 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องจากเป็น “ภัยคุกคามต่อการบินพลเรือน”
สำหรับวัตถุปริศนาชิ้นล่าสุดนี้ นับเป็นชิ้นที่สองที่ถูกพบลอยอยู่บนท้องฟ้าอเมริกาเหนือในรอบไม่กี่วัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีบอลลูนสอดแนมขนาดใหญ่ของจีน บินเข้ามาในน่านฟ้าแคนาดาและสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา และได้ถูกกองทัพสหรัฐฯ ยิงทำลายระหว่างลอยอยู่เหนือทะเลในรัฐเซาท์แคโรไลนา
หนึ่งวันก่อนที่จะมีการทำลายวัตถุปริศนาชิ้นล่าสุด เมื่อวันศุกร์ (10 ก.พ.) กองทัพสหรัฐฯ ได้ยิงขีปนาวุธทำลายวัตถุปริศนาขนาดเท่ารถยนต์ขนาดเล็กชิ้นหนึ่ง ขณะกำลังบินอยู่บนท้องฟ้าในเขตใกล้กับเมืองเดดฮอร์ส รัฐอะแลสกา










