สหรัฐฯ จัดการแบนบริษัทจีนอีกระลอก สงสัยมีเอี่ยวนำเทคโนโลยีของอเมริกาไปช่วยพัฒนากองทัพจีน
วันที่ 25 พ.ย. 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ทำการเพิ่มบริษัท 27 แห่งใน จีน ปากีสถาน ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ เข้าไปในบัญชีดำทางการค้า ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงและความกังวลของนโยบายต่างประเทศ โดยบางรายมีการช่วยเหลือกองทัพจีนในการพัฒนาระบบควอนตัมคอมพิวเตอร์
จินา ไรมอนโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า การขึ้นบัญชีดำรอบนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เทคโนโลยีของสหรัฐฯ ถูกนำไปใช้พัฒนาทางการทหารให้กับจีนและรัสเซีย รวมถึงกิจกรรมทางนิวเคลียร์หรือขีปนาวุธในปากีสถาน
โดยในจำนวนนี้ มีบริษัทจีนถึง 8 บริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำ จากการพัฒนาเทคโนโลยีให้กับกองทัพปลอดปล่อยประชาชนจีน และพยายามที่จะนำสิ่งของที่มาจากสหรัฐฯ ไปใช้ทางการทหาร ซึ่งมีรายชื่อดังนี้
Hangzhou Zhongke Microelectronics Co Ltd
Hunan Goke Microelectronics
New H3C Semiconductor Technologies Co Ltd
Xi’an Aerospace Huaxun Technology
Yunchip Microelectronics
National Laboratory for Physical Sciences at Microscale
QuantumCTek
Shanghai QuantumCTeck Co Ltd
ทางกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุในประกาศว่า ต้องการที่จะหยุดยั้งไม่ให้กองทัพจีนพัฒนาเทคโนโลยีต่อต้านระบบล่องหน อย่างระบบเรดาร์ขั้นสูงและระบบเซนเซอร์ใต้น้ำสำหรับต่อต้านเรือดำน้ำ รวมไปถึงการเจาะการเข้ารหัส หรือพัฒนาการเข้ารหัสที่ไม่สามารถเจาะได้
โดยบริษัทสหรัฐฯ ที่เป็นคู่ค้ากับบริษัทเหล่านี้ จะต้องยื่นขอใบอนุญาตก่อนที่จะขายสินค้า ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะถูกปฏิเสธในภายหลัง
ทางด้านสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตันได้ออกมาคัดค้านถึงการตัดสินใจครั้งนี้ โดยชี้ว่าเป็นการใช้เหตุผลด้านความมั่นคงแบบเหมารวม และใช้อำนาจรัฐในการกดทับและจำกัดการค้าของจีนในทุกรูปแบบ
อย่างไรก็ตาม จีนก็มีการบังคับใช้กฎหมายการเซนเซอร์จนทำให้บริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ หลายแห่งต้องถอนตัวออกจากตลาดจีนก่อนหน้านี้
นอกเหนือจากบริษัทจีนที่กล่าวมาข้างต้น ยังมีบริษัทของรัสเซียอย่าง Moscow Institute of Physics and Technology ที่ถูกขึ้นบัญชีดำ แต่ไม่ได้มีการอธิบายรายละเอียด โดยระบุสาเหตุว่าเป็นบริษัทที่ผลิตสิ่งของที่ใช้ทางด้านการทหาร
นับตั้งแต่ยุคของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สหรัฐฯ ได้มีการขึ้นบัญชีดำบริษัทเทคโนโลยีจีนหลายแห่ง โดยเคสที่โด่งดังที่สุดคือการแบนหัวเว่ย (Huawei) ในปี 2562 จนทำให้บริษัทประสบปัญหาในการผลิตและจัดจำหน่ายมือถือตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
