กงสุลสหรัฐฯ ในเฉิงตูขนของย้ายก่อนถึงเส้นตายเช้าพรุ่งนี้ ชาวจีนแห่กันมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

รถบรรทุกหลายคันถูกนำไปจอดบริเวณสถานกงสุล ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ขนของออกในช่วงสุดสัปดาห์ หลังสหรัฐฯ ยืนยันการสั่งปิดสถานกงสุลจีนที่ฮุสตันเมื่อวันศุกร์

สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า เจ้าหน้าที่สถานกงสุลสหรัฐฯ ประจำนครเฉิงตู กำลังเร่งเคลียร์พื้นที่หลังจากที่ทางการจีนออกคำสั่งให้ย้ายออกภายในเช้าวันจันทร์ ซึ่งเป็นเวลา 72 ชั่วโมงนับตั้งแต่มีการแจ้งในเช้าวันศุกร์

การที่ทางการจีนสั่งปิดสถานกงสุลในครั้งนี้เป็นผลต่อเนื่องมาจากการที่ทางการสหรัฐฯ สั่งปิดสถานกงสุลจีนประจำเมืองฮุสตัน ซึ่งมีผลเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา

ในระหว่างการแถลงข่าวของกระทรวงการต่างประเทศจีนเมื่อวันศุกร์ นิวยอร์กไทมส์ (New York Times) สื่อจากสหรัฐฯ พยายามตั้งคำถามว่าทางการสหรัฐฯ ให้เวลา 3 วันทำการในการขนย้ายทรัพย์สินออกจากสถานกงสุลจีนในฮุสตัน สำหรับที่เฉิงตูที่เพิ่งมีประกาศออกมาเมื่อวันศุกร์ จะมีการนับเวลา 3 วันทำการโดยไม่รวมเสาร์อาทิตย์หรือไม่ 

แต่นายหวัง เหวินปิ่น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนตอบคำถามแบบไม่ได้ลงรายละเอียดในประเด็นดังกล่าว โดยตอบเพียงว่า ทางการจีนได้แจ้งต่อสถานกงสุลสหรัฐฯ ถึงข้อกำหนดต่างๆ แล้ว และเป็นเรื่องทางการทูต

ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ไม่ได้มีการให้ความเห็นถึงการโดนสั่งปิดสถานกงสุลแต่อย่างใด

ทำให้ในปัจจุบัน กรอบเวลา 72 ชั่วโมงถูกอ้างอิงมาจากการประกาศของบรรณาธิการหนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ (Global Times) ที่เป็นสื่อของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และการขนย้ายของสหรัฐฯ ในช่วงสุดสัปดาห์ก็สามารถยืนยันกรอบเวลาดังกล่าวได้

ขณะเดียวกันก็มีประชาชนชาวจีนหลายร้อยคนมาร่วมสังเกตการ รวมถึงถ่ายภาพและวิดีโอเพื่อโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดีย ทำให้บริเวณดังกล่าวกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขนาดย่อม จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมากันพื้นที่ให้รถขนของสามารถวิ่งเข้าออกได้

หลังจากพรุ่งนี้เป็นต้นไป เหตุการณ์สั่งปิดสถานกงสุลระหว่างสองประเทศมหาอำนาจรอบนี้ก็จะสิ้นสุดลง แต่สถานการณ์ความขัดแย้งในภาพรวมน่าจะยังคงดำเนินต่อไป โดยล่าสุดทางกระทรวงการต่างประเทศของจีนได้แสดงความไม่พอใจที่ทางสหรัฐฯ ใช้กำลังในการบุกเข้าไปยังสถานกงสุลจีนที่ฮุสตัน หลังจากผ่านเส้นตาย 72 ชั่วโมงที่ทางสหรัฐฯ ประกาศอย่างชัดเจนก่อนหน้านี้แล้ว

นายหวังกล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า สหรัฐฯ ไม่ควรจะบุกรุกเข้าไปยังบริเวณสถานกงสุล โดยยกอนุสัญญาเวียนนา และสนธิสัญญากงสุลจีน-สหรัฐฯ ขึ้นมาอ้าง และยังระบุว่ารัฐบาลปักกิ่งจะทำการตอบโต้ที่จำเป็นต่อไป