สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตร 11 บริษัทของจีน ที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง

สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตร 11 บริษัทของจีน ที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง

กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตร 11 บริษัทจีน ชี้บังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ได้ประกาศคว่ำบาตร 11 บริษัทจากประเทศจีน ตามรายงานระบุว่ากลุ่มบริษัทที่ถูกแบนครั้งนี้มาจากหลายธุรกิจทั้ง บริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพ (วิเคราะห์ DNA), บริษัทสิ่งทอและอุปกรณ์แต่งผม และบริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ในบ้านรายใหญ่ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ไม่สามารถทูรกิจร่วมกับบริษัทสัญชาติอเมริกันได้

โดยทางกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ชี้ว่าบริษัทดังกล่าวมีส่วนข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน และการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยมุสลิมอื่นๆ ในเขตปกครองตนเองซินเจียงของจีน ขณะที่นายวิลเบอร์ รอสส์ รับมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กล่าวว่า “มาตรการดังกล่าวจะทำให้แน่ใจได้ว่าสินค้าและเทคโนโลยีของเรา จะไม่ถูกนำไปใช้ในการกระทำอันมุ่งร้ายของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีต่อชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิม”

ทั้งนี้ทางกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ไม่ได้ออกมาเปิดเผยว่า มีบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ บริษัทใดบ้างที่ทำธุรกิจร่วมกับบริษัทจีนที่ถูกแบนในครั้งนี้ แต่รายงานจากสถาบันนโยบายยุทธศาสตร์แห่งออสเตรเลีย (ASPI) เผยว่า แบรนด์ยัหษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง แอปเปิล, ไนกี้ และคาลวิน ไคลน์ ได้ทำธุรกิจร่วมกับบริษัทที่โดนคว่ำบาตรในครั้งนี้ ซึ่งทางสถาบัน ASPI กล่าวว่า ชาวอุยกูร์จำนวนมากต้องทำงานอย่างหนักเพื่อป้อนสินค้าให้กับแบรนด์ระดับโลกมากกว่า 83 แบรนด์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทเทคโนโลยี, เสื้อผ้า และยานยนต์

ด้านนายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนเผยว่า การกระทำของสหรัฐฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดบรรทัดฐานพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และพยายามที่จะแทรกแซงกิจการภายในของจีน ซึ่งจะก่อให้เกิดอันตรายต่อผลประโยชน์ของจีน

ทั้งนี้การประกาศคว่ำบาตรบริษัทจีนของสหรัฐฯ ในครั้งนี้ไม่ใช่แรก หลังจากเมื่อเดือนต.ค. ปีที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ ขึ้นบัญชีดำบริษัทเทคโนโลยีและหน่วยงานของรัฐบาลจีน 28แห่งฐานละเมิดสิทธิมนุษยชน ครอบคลุมถึงการละเมิดสิทธิชาวมุสลิมอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยอื่นๆ

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง