หนี้สาธารณะไทยล่าสุดขึ้นมาอยู่ที่ 9.8 ล้านล้านบาท พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แล้ว 10 ปีที่ผ่านมาหนี้ประเทศไทยเป็นอย่างไรบ้าง

ต้นเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง รายงานสถานการณ์ ‘หนี้สาธารณะ’ ของไทย ณ สิ้นเดือน ก.พ. 2565 ว่าอยู่ที่ระดับ 60.17% ต่อจีดีพี มูลค่ากว่า 9.8 ล้านล้านบาท
นับเป็นตัวเลขที่สูงเป็นประวัติการณ์ จนมีหลายฝ่ายกังวลว่าประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ภาวะ ‘ล้มละลาย’ หรือไม่
โดยถ้าย้อนดูตัวเลข 10 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าหนี้สาธารณะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และก้าวกระโดดตั้งแต่ปี 2563
ผลจากวิกฤตต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจชะลอตัว และการระบาดของโควิด ที่ทำให้รัฐบาลต้องออก พ.ร.ก. กู้เงินฉุกเฉินถึง 2 ครั้ง รวม 1.5 ล้านล้านบาท เพื่อนำมาใช้เยียวยาในช่วงโควิด
หนี้ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนปีงบฯ 64 อยู่ที่ 58.31% ต่อจีดีพี ทำให้ไทยเหลือพื้นที่ในการก่อหนี้น้อยลง (เพราะตอนนั้นวางกรอบเพดานหนี้ไว้ที่ 60% ต่อจีดีพี)
นำมาสู่การปรับกรอบเพดานหนี้สาธารณะจาก 60% สู่ระดับ 70% ต่อจีดีพี ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. 2564 เป็นต้นมา เพื่อรองรับการกู้เงินชดเชยขาดดุลงบประมาณ 2565 และกู้เงินอื่นเพื่อรองรับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจากผลกระทบจากโควิด
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด สบน. ออกมายืนยันว่าระดับหนี้ดังกล่าวไม่ทำให้เกิดปัญหาการคลัง ประเทศไทยยังไม่เสี่ยงล้มละลายแน่นอน และรัฐบาลยังมีความสามารถในการ ‘จ่ายหนี้’ อยู่
ขณะที่กระทรวงการคลัง บอกว่า 70% ของหนี้จำนวนดังกล่าว เป็นเงินกู้เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ เช่น คมนาคม การศึกษาและวิทยาศาสตร์ เศรษฐกิจและสังคมสาธารณูปการ และสาธารณสุข เป็นต้น










