
(เอเอฟพี) ที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาติ ลงมติเสียงส่วนใหญ่ ให้สหรัฐฯ ถอนการรับรองเยรูซเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล
ประเด็นคือ – สมาชิกสมัชชาใหญ่ สหประชาชาติ จำนวน 128 ประเทศ ออกเสียงเรียกร้องสหรัฐฯ เพิกถอนการรับรอง เยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล โดยไม่สนคำขู่ตัดเงิน ของนายทรัมป์
การที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์กของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ได้มีการลงโหวตเสียงชาติสมาชิก 193 ประเทศ เกี่ยวกับมติเรียกร้องให้สหรัฐฯ เพิกถอนการรับรองสถานะนครเยรูซาเล็ม เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล โดยปรากฎว่า มีชาติสมาชิกจำนวน 128 ประเทศ ที่สนับสนุนมติดังกล่าว ซึ่งมีเนื้อหาว่า “การตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับสถานะของนครเยรูซาเล็มไม่มีผลบังคับใช้และเป็นโมฆะ ” ขณะที่มีชาติสมาชิก งดออกเสียง 35 ประเทศ และไม่เห็นชอบ 9 ประเทศ
การลงมติมีขึ้น หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่จะตัดความช่วยเหลือด้านการเงิน กับชาติที่ออกเสียงสนับสนุนมติสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ที่ให้เพิกถอนการรับรองสถานะนครเยรูซาเล็ม ขณะที่มีรายงานว่า 9 ประเทศ ที่ออกเสียงไม่เห็นชอบมติดังกล่าว ได้แก่ อิสราเอล, กัวเตมาลา, ฮอนดูรัส, สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์, ไมโครนีเซีย, นาอูรู , ปาเลา และโตโก ส่วน 35 ชาติที่งดออกเสียง เช่น แคนาดา เม็กซิโก
ขณะที่นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศไม่ยอมรับมติดังกล่าว พร้อมย้ำว่า เยรูซาเล็ม เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล
Pakistan stands firmly behind the Palestinian people. UNGA adopts resolution on status of Jerusalem by a majority vote calling US to reverse it’s decision on Jerusalem.
#UNGA #Jerusalem #Pakistan #Palestine pic.twitter.com/lGFOwvEkTz— Govt of Pakistan (@pid_gov) 21 ธันวาคม 2560
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การที่ทรัมป์ ประกาศรับรองให้เยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล นำมาซึ่งความไม่พอใจอย่างมากของชาติมุสลิม โดยมีการตอบโต้ด้วยการ ประกาศให้ เยรูซาเล็มตะวันออก เป็นเมืองหลวงของปาเลสไตน์ และนำมาซึ่งการประท้วงเป็นวงกว้าง แต่ถึงกระนั้น ทรัมป์ ยังคงยืนยัน และออกมาขู่ก่อนหน้านี้ว่าหากประเทศใดไม่เห็นด้วย ก็เป็นการดีที่สหรัฐฯ จะไม่ต้องเสียเงินให้กับประเทศนั้นๆ









