ถอดรหัส Mo-Mo-Paradise ทำไมถึงเป็นศูนย์รวมจิตใจคนรักชาบูชาบู

ถอดรหัส Mo-Mo-Paradise ทำไมถึงเป็นศูนย์รวมจิตใจคนรักชาบูชาบู

BUSINESS KNOWLEDGE

Mo-Mo-Paradise มีแฟนคลับ

Mo-Mo-Paradise มีคนปกป้อง

ทำไม Mo-Mo-Paradise ถึงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนรักชาบูชาบูหรือสุกี้ยากี้

ในปี 2008 ณ วันที่ชาบูไทยยังไม่บูมอย่างวันนี้ ‘สุรเวช เตลาน’ คือชายผู้พา Mo-Mo-Paradise บินข้ามฟ้าจากย่านคาบูกิโช-ชินจูกุ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นมาสร้างมาตรฐานชาบูชาบูที่ยังไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย

ผ่านมาอีกที 13 ปี Mo-Mo-Paradise ได้กลายเป็นหนึ่งในสุดยอดร้านชาบูที่เป็นที่รักหรือมี ‘Brand Love’ ที่ดีที่สุดในหมู่ชาบูชาบูกลุ่มนี้ในประเทศไทย

ณ จุดเริ่มต้นอาจจะฟังดูเป็นเรื่องราวความสำเร็จที่ดาษดื่น

‘สุรเวช เตลาน’ คือนักธุรกิจหนุ่มจบนอกไฟแรงที่รับหน้าที่สานต่อธุรกิจครอบครัว (ที่ไม่เกี่ยวข้องกับร้านอาหารญี่ปุ่น) บังเอิญไปติดตาต้องใจร้านชาบูรสชาติแท้ต้นตำรับญี่ปุ่นระหว่างการเดินทางไปเจรจาธุรกิจ เขาตัดสินใจ เข้าสานสัมพันธ์ฉันมิตรกับเจ้าของร้านและ ‘ขอซื้อแฟรนไชส์’ ที่ไม่เคยขายให้ใครทำมาก่อน

เขาทุ่มเทพยายามศึกษาเรียนรู้จากเจ้าของกิจการกว่า 9 เดือน ตั้งแต่จัดโต๊ะ ล้างจาน เตรียมของ และสามารถ ‘ซื้อใจ’ เจ้าของร้านออริจินัลของ Mo-Mo-Paradise ได้ในที่สุด รู้ตัวอีกทีในปี 2020 Mo-Mo-Paradise ในไทยก็มีจำนวนสาขากว่า 19 สาขาด้วยจุดแข็งของแบรนด์ที่ไม่เคยแปรเปลี่ยน

Mo-Mo-Paradise คือร้านชาบูที่มี ‘แฟนคลับ’ เป็นของตัวเอง

ในหมู่ร้านชาบูชาบูสไตล์ออริจินัลที่มีช่วงราคาเดียวกัน  Mo-Mo-Paradise ถือเป็นร้านที่เป็นที่รู้จักและมีสาขามากที่สุด แฟนเพจในประเทศไทยของ Mo-Mo-Paradise มีผู้ติดตามกว่า 96,349 คน มีอัตราการเติบโตของรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดเฉลี่ย 38% และ 124% ต่อปี

แต่แน่นอนว่าที่สำคัญที่สุดคือ Mo-Mo-Paradise มีคนปกป้อง

จากดราม่าในสื่อสังคมออนไลน์ล่าสุดที่เจ้าของเพจรีวิวอาหารเจ้าหนึ่งได้รีวิว Mo-Mo-Paradise โดยให้คะแนน 2/10 ระบุว่าไม่พึงใจกับรสชาติ ความหลากหลายของอาหาร รวมถึงการจัดการภาชนะบริการ ทำให้ถูกถล่มคอมเม้นต์อย่างหนักกว่าหมื่นคอมเม้นต์

แม้ความพยายามในการปกป้อง Mo-Mo-Paradise ของคนในโลกออนไลน์อาจจะมาจากที่เจ้าของเพจรีวิววิธีรับประทานที่ไม่ตรงตามขนบของชาบูชาบู และการวิพากษ์วิจารณ์ที่ถูกมองว่ามีอคติ จนทำให้เกิดความไม่พอใจ แต่จำนวนผู้ลงสนามมาปกป้องแบรนด์ก็มีมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ

ที่สำคัญทำให้หน้าร้านของ Mo-Mo-Paradise ในวันนี้แน่นขนัดหลายสาขา

คำถามคือ ทำไมท่ามกลางกระแสที่มาแรง ร้านชาบูสุกี้ที่เปิดใหม่อย่างคึกคัก

แต่ Mo-Mo-Paradise ยังคงเป็นศูนย์รวมจิตใจคนรักชาบูสุกี้

ก็คงต้องบอกว่า Mo-Mo-Paradise มีสิ่งที่เรียกว่า Brand Love อย่างดีเยี่ยม

ในทศวรรษที่ผ่านมาผู้ให้บริการชาบูและสุกี้ต่างเลือกคัดสรรเมนูใหม่เข้าร้านเป็นพัลวัน ร้านเปิดให้บริการใหม่ก็เน้นดีไซน์ไลน์อาหารให้มี ‘ความหลากหลาย’ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มซูชิ ซาชิมิ หรืออาหารทานเล่นอื่นๆ เพื่อขยายโอกาสในการดึงดูดคนรักชาบูจากทั่วทุกสารทิศให้ตบเท้าเดินเข้าร้านมากที่สุด

แต่ Mo-Mo-Paradise กลับยึดมั่นใน Brand Identity และหลักการตั้งต้นอย่างแน่วแน่

“เราจะสร้างความสุขกับการรับประทานให้กับลูกค้าไปทั่วโลกด้วยชาบูชาบูและสุกี้ยากี้รสชาติต้นตำรับแท้จากญี่ปุ่นที่อร่อยและมีคุณภาพ”

‘รสชาติต้นตำรับแท้จากญี่ปุ่น’  ‘อร่อย’ และ ‘มีคุณภาพ’ เท่านั้นที่ Mo-Mo-Paradise ยึดถือ จนถึงวันนี้ Mo-Mo-Paradise จึงเป็นร้านชาบูชาบูที่มีเมนูน้อยยิ่งกว่าน้อยและมีระดับความหลากหลายของไลน์อาหารที่ต่ำมาก ระดับที่มีเมนูเนื้อไม่กี่เมนู เมนูหมูเพียงเมนูเดียว หรือจะเรียกว่า “มีแต่เนื้อ หมู ไก่ ข้าว เส้น ไข่” ก็ยังได้ และที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีการเพิ่มไลน์อาหารใหม่เข้ามาให้บริการมากมายแต่อย่างใด

แต่ทุกเมนู โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมนูเนื้อของ Mo-Mo-Paradise ได้รับการยอมรับนับถือในคุณภาพที่ยอดเยี่ยมภายใต้ระดับราคาที่คุ้มค่าแบบ All You Can Eat นอกจากนั้น น้ำซุปทั้ง 4 อย่างชาบูชาบู สุกี้ยากี้ คารามิโซะ และทงคตสึก็ยังได้รับความรักเสมอมา

Brand Identity หรือตัวตนของแบรนด์ Mo-Mo-Paradise จึงชัดเจนอย่างยิ่งว่าขายอะไร ขายแบบไหน และขายด้วยจุดยืนอะไร ไม่ผันแปรไปตามกระแสความนิยมของสังคม

“ผมโฟกัสที่ตัวเองเป็นหลัก ไม่เคยคิดว่าร้านอื่นๆ เป็นคู่แข่งเลย เพราะผมมองว่า ร้านอาหารต้องแข่งกับตัวเอง ต้องมีจุดยืนที่แน่วแน่ อย่างร้านผมเน้นความเป็นชาบูญี่ปุ่นแท้ๆ เน้นคุณภาพเป็นหลัก ไม่เน้นอาหารที่หลากหลาย เราก็ยึดมั่นในทางนี้ไม่เคยเขว แม้ร้านอื่นๆ จะเพิ่มเมนูต่างๆ ให้ลูกค้า ทั้งซูชิ หรืออาหารอื่นๆ เราก็ไม่เคยตามกระแส แต่ชัดเจนในความเป็นตัวเอง เพราะสุดท้าย ลูกค้าเขาเป็นคนตัดสินเองว่าร้านนี้ดีหรือไม่ดี เขาพึงพอใจกับรสชาติอาหาร มีความสุขกับการเข้ามานั่งในร้านหรือเปล่า” สุรเวช เคยให้สัมภาษณ์ไว้กับอมรินทร์อะคาเดมีในปี 2017

นอกจากนั้น Mo-Mo-Paradise ยังมีการสื่อสารแบรนด์อย่างสม่ำเสมอ ความเคลื่อนไหวของเพจ Mo-Mo-Paradise (Thailand) มีต่อเนื่องเป็นประจำ เน้นนำเสนอจุดเด่นของแบรนด์ อย่างคุณภาพเนื้อ คุณภาพหมู คุณภาพวัตถุดิบ รสชาติของหวาน รวมถึงโปรโมชันในรูปแบบต่างๆ

Brand Identity ที่ชัดเจนและการสื่อสารที่ตรงจุดและต่อเนื่อง คือหนึ่งในรากฐานสำคัญในการสร้าง Brand Love และทำให้ Mo-Mo-Paradise เป็นศูนย์รวมจิตใจคนรักชาบูชาบู-สุกี้ยากี้มาตลอด

ที่มาข้อมูล
SiraromWriterSirarom
นักข่าวธุรกิจการตลาดที่เคยวิ่งในสนามอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ชอบเรื่องราวของผู้คนและหวังว่าในทางหนึ่งข่าวธุรกิจการตลาดจะสร้างแรงกระเพื่อมสู่สังคมไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง | [email protected]

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง