ถ้าไม่ใช่ก็ไม่ต้องเสียเวลา! วิธีบริหารคนแบบสตาร์ทอัปอเมริกัน วัดใจพนักงานใหม่ จะเลือกอยู่ต่อ หรือรับเงินแสนแล้วลาออกเลย
ท่ามกลางปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ทำให้เจ้าของธุรกิจจำนวนมากในอุตสาหกรรมต่างๆ ต่างประสบปัญหาในการสรรหาคน และรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กร
โดยในเดือน พ.ย. 2564 ชาวอเมริกันกว่า 4.5 ล้านคนลาออกจากงาน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยหลายคนระบุว่า สาเหตุหลักๆ ที่ลาออกจากงานเพราะสภาพการทำงานที่ไม่ดี และค่าจ้างต่ำ
บนความพยายามที่จะรักษาพนักงานไว้ให้ได้ บริษัทต่างๆ ต่างก็สร้างแรงจูงใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การปรับขึ้นค่าแรง, แจกโบนัสให้หากมาเริ่มงานกับองค์กร รวมไปถึงการให้ผลประโยชน์ในเชิงการศึกษา เพื่อดึงดูดพนักงานเพิ่มมากขึ้น
แม้จะใช้สารพัดกลยุทธ์ดึงคนเหล่านี้แล้วก็ตาม แต่ปัญหาการขาดแคลนแรงงานก็ยังลากยาวมาจนถึงปีนี้ โดยงานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุว่า ปัญหานี้อาจดำเนินต่อไปอีกไกลกว่าแค่ในปีนี้ แม้ว่านายจ้างจะใส่ความพยายามลงไปแล้วก็ตาม
แต่ถึงอย่างนั้น ก็มีบริษัทหนึ่งได้ค้นพบแนวทางใหม่ในการค้นหาและรักษาพนักงานไว้
Chris Ronzio ซีอีโอแห่ง Trianual ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ในแอริโซนา สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า บริษัทมีนโยบายเสนอเงิน 5,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 165,000 บาท ให้พนักงานใหม่ลาออก หลังจากพนักงานเริ่มงานได้เพียง 2-3 สัปดาห์แล้วพบว่าไม่ใช่
โดยบริษัทระบุว่า แนวทางนี้เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้บริษัทสามารถค้นหาและรักษาคนเก่งเบอร์ต้นๆ ของอุตสาหกรรมไว้ในองค์กร รวมถึงรักษาวัฒนธรรมองค์กรอันแข็งแกร่งไว้ได้
“ด้วยสภาพตลาดในปัจจุบัน ทีมที่มีหน้าที่รับสมัครและจ้างพนักงาน ต้องขยับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อประเมินผู้สมัคร และนำพวกเขาเข้าสู่กระบวนการตกลงเงินเดือน กระทั่งเริ่มงาน แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นไปไม่ได้ที่จะได้คนที่เหมาะกับองค์กรแบบ 100% ในทุกครั้ง” Ronzio กล่าว
ดังนั้น แนวทางการยื่นข้อเสนอเงินจำนวนหนึ่งให้ลาออก จะช่วยให้บริษัทหาคนที่ใช่ได้ในเวลาที่เร็วกว่าเดิม และช่วยให้พนักงานใหม่โบกมือลาได้หากพวกเขาพบว่าตัวเองไม่เหมาะกับองค์กร
Ronzio บอกอีกว่า สิ่งสำคัญคือต้องรู้อย่างรวดเร็วว่าเราพบคนที่เหมาะสมแล้ว เพราะการเปลี่ยนพนักงานตอนที่เขาทำงานแล้ว (ซึ่งบริษัทก็ทุ่มเทไประดับหนึ่งเพื่อพัฒนาศัยภาพและทักษะของพนักงาน) และมีหน้าที่รับผิดชอบมากขึ้น มีราคาแพงกว่าข้อเสนอที่มอบให้
เรียกง่ายๆ ว่าบริษัทอยากได้คนเก่งๆ และทุ่มเทกับองค์กรเท่านั้น ไม่อยากเสียเวลา ไม่อยากทุ่มเททรัพยากรกับคนที่ไม่ใช่นั่นเอง
นโยบายเสนอจ่ายเงินให้เพื่อให้ลาออกจากงานนี้เริ่มใช้ตั้งแต่เดือน พ.ค. 2563 ซึ่งในขณะนั้นบริษัทเสนอเงินให้พนักงานใหม่ 2,500 เหรียญ เพื่อลาออกจากบริษัทหลังทดลองงานได้ 2 สัปดาห์แล้วมีความรู้สึกกังขาหรือเคลือบแคลงใจใดๆ หรือรู้สึกว่างานนี้ยังไม่ใช่ ไม่เหมาะกับตัวเอง โดยพนักงานสามารถเลือกที่จะไม่รับข้อเสนอได้
ทั้งนี้ ตั้งแต่ใช้นโยบายนี้มา บริษัทรับสมัครงานมาทั้งหมด 38 คน และยังไม่มีคนไหนที่รับข้อเสนอนี้ จนกระทั่งปัจจุบัน บริษัทได้เพิ่มเงินในข้อเสนอเป็น 5,000 เหรียญ
ซึ่งการปรับตัวเลขขึ้นมาก็เป็นเพราะ 2,500 เหรียญนั้นอาจจะน้อยเกินไป เมื่อเทียบกับเงินเดือนเฉลี่ยของบริษัทที่อยู่ที่ 80,000-100,000 เหรียญต่อปี ทำให้พนักงานอาจไม่รับข้อเสนอ แต่อยู่ต่อแล้วไปหางานใหม่ทีหลัง จึงปรับตัวเลขขึ้นมาดังกล่าว
Ronzio ยกตัวอย่างสิ่งที่เกิดขึ้นกับบริษัทของเขาว่า “เราเคยมีนักพัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่คนหนึ่งที่เริ่มต้นกับเรา หลังจากทดลองงานไป 5 วัน เขามาหาเราและพูดว่า ‘นี่ไม่ใช่บทบาทที่คิดไว้ตอนที่จะมาทำงานที่นี่ ผมคิดว่าผมน่าจะได้ข้อเสนอที่ดีกว่านี้’”
เหตุการณ์นี้ทำให้ Ronzio ตระหนักว่าน่าจะต้องมีคนอื่นๆ ที่รู้สึกแบบเดียวกันแต่ไม่สะดวกใจที่จะหยิบยกประเด็นนี้มาพูดกับฝ่ายบุคคล ซึ่งนโยบายการจ่ายเงินสำหรับการลาออกนั้นจะช่วยให้ทั้งพนักงานและบริษัท ‘วิน-วิน’ กันทั้ง 2 ฝ่าย
คือบริษัทก็ได้คนที่เหมาะสม พร้อมทุ่มเทให้กับงาน และพนักงานก็ได้ทำงานที่เหมาะกับตัวเองด้วย
ที่มา :
