
เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่มีความรุนแรงมากขึ้น และยอดผู้ติดเชื้อในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังไม่มีท่าทีว่าจะจบลงเมื่อใด จนภาครัฐออกมาตรการควบคุมสถานการณ์อย่างเข้มงวดอีกครั้ง
แน่นอนว่า เมื่องดการเดินทาง พบปะกัน หลีกเลี่ยงการออกจากบ้านซื้อสินค้า การสั่งสินค้าออนไลน์ รวมทั้งการส่งพัสดุฝากถึงกันแทนความห่วงใยจึงเพิ่มขึ้นตามมาเป็นอย่างมาก ย่อมทำให้ยอดพัสดุที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวันมีจำนวนมาก จึงเกิดปัญหาการคัดแยกและการจัดส่งล่าช้าตามมา ประกอบกับปัญหาพนักงานในบางสาขา และศูนย์กระจายพัสดุของบางรายติดเชื้อโควิด-19 บางค่ายจึงถูกสั่งปิดศูนย์กระจายพัสดุ และสาขาที่ให้บริการตามๆ กันไป พบพัสดุหลายรายการได้รับความเสียหาย TODAY Bizview ได้รวบรวมผลกระทบและแนวทางการแก้ปัญหาจาก ขนส่ง 6 ค่ายหลักในประเทศไทย ไว้ดังนี้
‘ไปรษณีย์ไทย’ ปิดที่ทำการให้บริการรับฝากชั่วคราวในบางพื้นที่ ระงับส่งผลไม้สด – ของเน่าเสียง่าย
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ออกประกาศแจ้งผู้รับบริการเมื่อวันที่ 26 ก.ค.2564 เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่มีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้เป็นหนึ่งในหน่วยงานได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดดังกล่าว และเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด ไปรษณีย์ไทยจึงมีความจำเป็นต้องปิดให้บริการรับฝากชั่วคราว หรืองดนำจ่ายชั่วคราว หรือนำจ่ายล่าช้า และปิดทำการชั่วคราวของไปรษณีย์ที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า ตามคำสั่ง ศบค.
นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทย ได้ระงับการฝากส่งผลไม้สด ต้นไม้ กล้าพันธุ์ไม้ และของเน่าเสียง่าย เป็นการชั่วคราวถึงวันที่ 31 ก.ค. 2564 เพื่อป้องกันผลไม้และต้นไม้เสียหาย เนื่องจากมีวันหยุดต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้การจัดส่งและนำจ่ายสิ่งของเป็นไปอย่างจำกัด และบางพื้นที่การจัดส่งอาจล่าช้า
ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทย จะทำการแจ้งข้อมูลที่ทำการไปรษณีย์ที่ปิดให้บริการรับฝากชั่วคราว หรืองดนำจ่ายชั่วคราว หรือนำจ่ายล่าช้า รวมทั้งการปิดทำการชั่วคราวของไปรษณีย์บางแห่ง ให้ผู้ใช้บริการทราบทุกวัน ผ่านเว็บไซต์ www.thailandpost.co.th เฟซบุ๊ก บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ทวิตเตอร์ @Thailand_Post
‘เคอรี่ เอ็กซ์เพรส’ ปิดบางสาขา แจ้งส่งล่าช้ากว่าปกติ ลูกค้าวางแผนก่อนส่ง
บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ก็เป็นอีกค่ายโลจิสติกส์เอกชนไทย ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่นเดียวกัน โดยมีการออกประกาศแจ้งการปิดบางสาขาเป็นการชั่วคราว เนื่องจากพบพนักงานติดเชื้อเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
ล่าสุดระบบทั้งหมดยังเปิดให้บริการตามปกติ แต่จากการสำรวจของทีม TODAY Bizview พบว่า พนักงานบางสาขาแจ้งว่า เคอรี่ เอ็กซ์เพรส จำเป็นต้องยกเว้นการบริการไปยังปลายทางในบางพื้นที่ ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของภาครัฐ ทำให้ระยะเวลาการขนส่งไปยังปลายทางใช้เวลามากปกติ 1-2 วัน พร้อมทั้งได้ แจ้งให้ลูกค้า วางแผนก่อนการจัดส่งพัสดุที่มีวันหมดอายุและเน่าเสียง่าย เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย
นายวราวุธ นาถประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า บางพื้นที่มีการจัดส่งพัสดุล่าช้ากว่าปกติ เนื่องจากขณะนี้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจำนวน 45 รหัสไปรษณีย์ โดยได้แจ้งลูกค้าล่วงหน้าแล้ว ประกอบในช่วงล็อกดาวน์ทำให้บางพื้นที่การจัดส่งล่าช้า เป็นเหตุให้ในช่วงนี้พัสดุเพิ่มขึ้นมากขึ้น 2.2 ล้านชิ้น แต่ละวันเพิ่มเป็นหลักแสน จากช่วงปกติจำนวนพัสดุอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านชิ้น ในขณะที่พนักงานเคอร์รี่มีประมาณ 20,000 คนทั่วประเทศ จึงมีความล่าช้ากว่าปกติ ซึ่งพัสดุจะส่งถึงมือผู้รับในวันถัดไป ประกอบกับส่วนหนึ่งบริการของไปรษณีย์บางพื้นที่ปิดชั่วคราว รวมทั้งศูนย์กระจายสินค้าแห่งหนึ่งมีพนักงานติดโควิด คาดว่าทำให้พัสดุจึงเข้ามาเพิ่ม
ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบสาขาเปิด-ปิด การให้บริการในช่วงยกระดับมาตรการควบคุมโควิด-19 ได้ที่นี่ https://announce.th.kerryexpress.com/
สามารถตรวจสอบสถานะพื้นที่รหัสไปรษณีย์ปลายทาง ในการจัดส่งพัสดุเคอรี่ เอ็กซ์เพรส “โปรดตรวจสอบข้อมูลรายวัน รายงานการปรับเปลี่ยนข้อมูลภายใน 11:00 น. ของทุกวัน” ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และมาตรการล็อกดาวน์ ได้ที่นี่ >>> https://bit.ly/3ybstI1
‘แฟลช เอ็กซ์เพรส’ เจ็บหนัก ถูกปิดศูนย์กระจายพัสดุวังน้อยชั่วคราว เร่งเยียวยาลูกค้า
เพิ่งขึ้นแท่น ‘ยูนิคอร์น’ ตัวแรกของไทยไปได้ไม่นาน สำหรับ บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ในเครือแฟลชกรุ๊ป ก็ต้องเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่จากโควิด-19 เมื่อมีพนักงานติดเชื้อโควิดหลายราย จนมติของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่มีมติให้ศูนย์กระจายพัสดุสาขาวังน้อยต้องปิดการดำเนินการชั่วคราว เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา แน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อพัสดุจำนวนมากที่รอส่งถึงปลายทาง
นายคมสันต์ ลี ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจแฟลช (Flash Group) ส่งจดหมายจาก CEO ถึงลูกค้าถึงแฟลช เอ็กซ์เพรส เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขอโทษกับลูกค้าต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมชี้แจงมาตรการเยียวยาชดเชยค่าเสียหายให้ลูกค้าผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งปิดศูนย์กระจายพัสดุสาขาวังน้อย โดยระบุช่วงหนึ่งว่า
“สำหรับความกังวล ความเดือดร้อนใจของทุกท่านในพัสดุที่คงค้างที่ศูนย์ฯ วังน้อยและผลกระทบจากความล่าช้าจากสถานการณ์นี้ ผมขอดูแลและชดเชยด้วยงบประมาณมากกว่า 200 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเสียหายที่ท่านได้รับไม่มากก็น้อย จากความจริงใจของเรา ตามนโยบายดังนี้ครับ”
- สำหรับผู้ส่งพัสดุ-สินค้าที่ถูกจัดส่งระหว่างวันที่ 16 – 31 ก.ค. 2564 หากเป็นปัญหาที่พัสดุอยู่ที่ศูนย์กลางกระจายพัสดุ (Hub) (ยกเว้น ช่วงขารับและขานำส่งพัสดุ) เกินกว่า 3 วัน ทางบริษัทฯ ยินดีคืนเงินค่าขนส่ง 100%
- หากลูกค้าปลายทางปฏิเสธการรับพัสดุเนื่องจากความล่าช้าของปัญหาจากศูนย์กลางกระจายพัสดุ (Hub) ข้างต้น ทางบริษัทฯ รับผิดชอบค่าตีกลับไปยังผู้ส่งต้นทาง และบริษัทฯ จะคืนเงินค่าขนส่ง 100%
- หากผู้รับปลายทางที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากการส่งล่าช้าจากปัญหาของศูนย์กลางกระจายพัสดุ (Hub) ข้างต้น ทางบริษัทฯ จะมอบคูปองของแฟลช เอ็กซ์เพรสมูลค่ารวม 50 บาท
- หากพัสดุเสียหายหรือสูญหายเนื่องจากปัญหาของศูนย์กลางกระจายพัสดุ (Hub) ข้างต้นทางบริษัทฯจะชดเชยค่าเสียหายเต็มจำนวนอย่างเร็วที่สุด (ภายใต้เงื่อนไขของบริษัทฯ ที่กำหนด)
ทั้งนี้ ทุกท่านสามารถตรวจสอบรายละเอียดอื่นได้เพิ่มเติม ที่ www.flashexpress.co.th หรือผ่านแอปพลิเคชั่น แฟลชเอ็กซ์เพลส รวมถึงติดต่อทีม Customer Support ที่พร้อมแก้ไขปัญหานี้ให้ท่านอย่างเต็มความสามารถ
โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดศูนย์ฯ วังน้อย ยังคงให้บริการในส่วนของการรับฝากเท่านั้น การนำส่งยังคงงดให้บริการชั่วคราว จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง และในส่วนของสินค้าที่ถูกนำส่งใหม่จะถูกกระจายผ่านศูนย์กระจายพัสดุอื่นๆตามปกติ ซึ่งจะไม่ได้รับผลกระทบจากการปิดศูนย์ฯ วังน้อย
*พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดศูนย์กระจายพัสดุวังน้อย
- กรุงเทพมหานคร – เฉพาะเขตปทุมวัน สัมพันธวงศ์และสาทร
- จังหวัดกาญจนบุรี
- จังหวัดฉะเชิงเทรา
- จังหวัดนครนายก
- จังหวัดนครปฐม
- จังหวัดนนทบุรี
- จังหวัดปทุมธานี
- จังหวัดปราจีนบุรี
- จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- จังหวัดลพบุรี
- จังหวัดสระแก้ว
- จังหวัดสระบุรี
- จังหวัดสิงห์บุรี
- จังหวัดสุพรรณบุรี
- จังหวัดอ่างทอง
นอกจากนี้ แฟลช เอ็กซ์เพรส งดรับพัสดุที่มีน้ำหนักเกินกว่า 10 กิโลกรัม และขนาดความกว้าง ความยาวและความสูงแต่ละด้านเกินกว่า 100 เซนติเมตร และสามด้านรวมกันเกินกว่า 150 เซนติเมตรเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. 2564 เป็นต้นไป
อีกทั้ง ขอประกาศแจ้งงดรับพัสดุประเภทของสด และ ผลไม้ทุกชนิดเป็นการชั่วคราว เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับสินค้าของลูกค้า ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. 2564 เป็นต้นไป โดยพัสดุที่ถูกจัดส่งมาก่อนหน้าการประกาศ บริษัทจะทำการจัดส่งให้ถึงมือผู้รับโดยเร็วที่สุด
‘เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส’ แจ้งปรับน้ำหนักและขนาดพัสดุ
เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการขนส่งพัสดุด่วนในประเทศไทย บริษัทโลจิสติกส์เชื้อชาติอินโดนีเซีย ที่ขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่นๆ ทั้งมาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ กัมพูชา จีน และไทย และเติบโตเป็นอย่างมากในช่วงโควิดระยะแรก
ก็ได้มีการออกประกาศผ่านหน้าเว็บไซต์เป็นระยะๆ ถึงผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนต้องปิดทำการบางสาขาเป็นการชั่วคราว
ออกประกาศหน้าเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้บริษัทฯ ขาดแคลนทรัพยากรในการขนส่งพัสดุที่มีขนาดใหญ่ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อระยะเวลาและประสิทธิภาพในการขนส่ง ทั้งนี้เพื่อรักษาคุณภาพและมาตราฐานในการขนส่ง
บริษัทฯ มีความจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการคำนวณน้ำหนักและขนาดปริมาตรใหม่ (น้ำหนักจริงและขนาดปริมาตรของพัสดุ) ดังนี้
- ด้านใดด้านหนึ่งไม่เกิน 100 ซม. ทั้งสามด้านรวมกันไม่เกิน 180 ซม. และน้ำหนักจริงไม่เกิน 50 กิโลกรัม
- ข้อกำหนดนี้ใช้กับพัสดุทุกประเภท ยกเว้นพัสดุจาก Shopee
- เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป
‘นิ่ม เอ็กซ์เพรส’ ของดรับสินค้าปลายทางในพื้นที่สาขาพุทธมณฑล สาย2
บริษัท นิ่มเอ็กซ์เพรส จำกัด หรือชื่อเดิม ‘ นิ่มซี่เส็ง’ ขนส่งของคนไทยอายุราว 50 ปี ก่อตั้งที่จังหวัดเชียงใหม่ ธุรกิจโลจิสติกส์ยักษ์ใหญ่จากทางภาคเหนือ ที่มาปักหมุดบริการครอบคลุมทุกอย่างในด้านการขนส่งในกรุงเทพฯ ภาคกลาง และตะวันออกเฉียงเหนือ มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ มีศักยภาพในการส่งพัสดุไม่ต่ำกว่า 200,000 ชิ้นต่อวัน ซึ่งกำลังถูกจับตาถึงย่างก้าวสำคัญไปสู่ระดับประเทศในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
แม้ว่า นิ่มเอ็กซ์เพรส จะผ่านอุปสรรคและประสบการณ์มามาก แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่รุนแรงในปีนี้ ก็ย่อมได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน จนมีการออกประกาศ “แจ้งการส่งสินค้าล่าช้ากว่ากำหนด” เนื่องจากภาครัฐได้มีการขยายพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด มีมาตรการล็อกดาวน์เพิ่มเติมและควบคุมการเดินทาง และเพิ่มการตั้งจุดคัดกรองการเข้า-ออก พื้นที่สีแดงเข้ม
ล่าสุด (27 ก.ค.) นิ่มเอ็กซ์เพรส ของดรับสินค้าปลายทางในพื้นที่สาขาพุทธมณฑล สาย2 ในระหว่างวันที่ 27-30 ก.ค. 2564 โดยยังคงดำเนินการจัดส่งสินค้าตามปกติ เพื่อเร่งเคลียร์สินค้าที่ตกค้างที่สาขา พร้อมขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น และจะเร่งดำเนินการจัดส่งสินค้าทั้งหมดอย่างเร็วที่สุด
SCG Express งดจัดส่งบางพื้นที่ และงดบริการเข้ารับพัสดุที่บ้านชั่วคราว
ด้าน SCG Express หรือ แมวดำญี่ปุ่น จากบริษัท เอสซีจี ยามาโตะ เอ็กซ์เพรส จำกัด ในเครือเอสซีจี ออกประกาศเพิ่มเติม เนื่องจากผลกระทบการแพร่ระบาดจากไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่งผลให้การจัดส่งล่าช้ากว่าปกติ จำเป็นต้องปิดบางสาขาชั่วคราว พร้อมกับแจ้งว่าอาจมีการจัดส่งพัสดุล่าช้าในบางพื้นที่
- การส่งพัสดุธรรมดา
❌งดจัดส่งบางพื้นที่ ตรวจสอบพื้นที่ได้ที่ https://bit.ly/3eXzGnD
❌งดบริการเข้ารับพัสดุที่บ้านชั่วคราว (เฉพาะกรุงเทพฯและปริมณฑล) เปิดอีกครั้ง 2 ส.ค. 2564
- ส่งพัสดุแบบควบคุมอุณหภูมิ แช่เย็น – แช่แข็ง
✔️จัดส่งได้ตามปกติ
❌งดบริการเข้ารับพัสดุที่บ้านชั่วคราว (เฉพาะกรุงเทพฯและปริมณฑล) เปิดอีกครั้ง 2 ส.ค. 2564
ตรวจสอบสาขาใกล้บ้าน https://www.scgexpress.co.th/servicepoint
โดยจะเร่งดำเนินจัดส่งพัสดุค้างส่งโดยเร็วที่สุดลูกค้าสามารถตรวจสอบรายชื่อพื้นที่ งดรับ – จัดส่ง จากประกาศนี้ ตรวจสอบรายชื่อชื่อพื้นที่แบบเต็มได้ที่ https://bit.ly/3eXzGnD
อย่างไรก็ดี นี่เป็นเพียงข้อมูลจากธุรกิจขนส่งพัสดุ 6 บริษัทชื่อดังเท่านั้น จากทั้งหมดที่มีกว่า 20 บริษัทที่ให้บริการในประเทศ ดังนั้นในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ไม่แน่นอนนี้ ผู้รับบริการจะต้องวางแผนการจัดส่งพัสดุ พร้อมศึกษาเงื่อนไขและการรับประกันสินค้าจากแต่ละค่ายเป็นอย่างดี ก่อนตัดสินใจใช้บริการ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาในภายหลัง
ที่มา:










